ธุรกิจการตลาด

DSI ลุยอายัดทรัพย์คดีโกงหุ้นสตาร์ กว่า 320 ล้านบาท สอบพยานกว่า 70 ปาก

11 ส.ค. 66
DSI ลุยอายัดทรัพย์คดีโกงหุ้นสตาร์ กว่า 320 ล้านบาท สอบพยานกว่า 70 ปาก

มหากาพย์คดีโกงหุ้น STARK คงยังไม่จบลงง่ายๆ DSI ลุยสอบ เร่งอายัดทรัพย์รวมกว่า 320 ล้านบาท รอบแรกอายัดที่ดิน  ทรัพย์สิน รถยนต์ มูลค่าราว 100 ล้านบาท และอายัดเพิ่ม คือ เงินสดในบัญชีเครดิตสวิส กว่า 220 ล้านบาท พร้อมลุยสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกว่า 70 ราย

ล่าสุด DSI โดยนางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีโกงหุ้นสตาร์ค ว่า พนักงานสอบสวนยังได้ดำเนินการอายัดบัญชีธนาคารของนายชนินทร์ ซึ่งเป็นบัญชีที่ผูกกับบัญชีธนาคาร “เครดิต สวิส” บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 220 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเยียวยาผู้เสียหายในอนาคต และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมที่ดินเพิ่มเติม หากพบจะดำเนินการอายัดทันที 

ก่อนหน้านี้ ได้มีการยึดอายัดรายการทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดในคดีโกงหุ้นสตาร์คฯ ตั้งแต่การอายัดทรัพย์สินบัญชีส่วนแรกประมาณ 100 ล้านบาทของกลุ่มนายชนินทร์และนายศรัทธา ต่อด้วยรถยนต์ของนายชนินทร์ และต่อด้วยที่ดิน 

ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา DSI ได้มีการแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าบางส่วน อาทิ การออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งสิ้น 10 รายตามที่ ก.ล.ต. ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น 

ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 4 ราย เหลืออีก 1 ราย คือ นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม โดยพนักงานสอบสวนนัดหมายให้เข้าพบในช่วงสัปดาห์หน้า 

ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานและการสอบปากคำพยานบุคคล ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างดำเนินการต่อเนื่อง 

โดยได้มีการสอบปากคำในฐานะพยานไว้แล้วจำนวน 70 ปาก ได้แก่ พยานกลุ่มพนักงานบริษัท 20 ปาก พยานกลุ่มคณะกรรมการบริหาร 2 ปาก พยานกลุ่มผู้สอบบัญชี 2 ปาก พยานกลุ่มลูกหนี้การค้าปลอม 6 ปาก พยานกลุ่มผู้รับเงินจากบริษัทสตาร์ค 6 ปาก พยานกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ นายทะเบียนหุ้นกู้ อีก 35 ปาก เพื่อให้ได้ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมมาประกอบการสอบสวน 

ในส่วนคดีอาญา ต้องรอให้พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องและศาลมีคำพิพากษา และให้ผู้กระทำผิดชดใช้เงินคืน ส่วนคดีแพ่งให้เป็นไปตามที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ฟ้องตามคดี Class action หรือการดำเนินคดีแบบกลุ่ม

นอกจากนี้ การอายัดทรัพย์สินในส่วนของผู้กระทำผิด หรือผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการอายัดที่ดินที่เกี่ยวข้องกับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัทฯ ไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนรายละเอียดที่ดิน และมูลค่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมที่ดิน

อย่างไรก็ตาม DSI ยังคงเร่งรัดดำเนินการทั้งทางการสอบสวนและการแสวงหาพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดีมากที่สุด 

โดยกรณีของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทสตาร์ค หรือ ทายาทสี TOA ที่ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ก่อนประสงค์ส่งหนังสือแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง 

ส่วนคำให้การของผู้ต้องหารายอื่นๆ อาทิ นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตประธานกรรมการฝ่ายการเงินของบริษัทสตาร์ค และ น.ส.ยสบวร อำมฤต เลขานุการของนายชนินทร์ ที่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ 

โดยคำให้การทั้งหมดยังคงอยู่ในสำนวนคดีเพื่อการตรวจสอบ และพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรอผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่จะต้องเข้าให้ปากคำ ทำให้ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่ยังไม่ได้รับครบถ้วน จึงต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนได้พิจารณาก่อน

สำหรับกรณีการหนีหมายจับของนายชนินทร์ จากเดิมประเทศปลายทาง คือ สิงคโปร์ นั้น ล่าสุดพนักงานสอบสวนมีทางการข่าวอย่างไรบ้าง นั้น พบว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่านายชนินทร์ไม่ได้พักอาศัยอยู่ภายในประเทศสิงคโปร์แล้ว 

แต่ DSI ได้ประสานความร่วมมือต่อเนื่องกับองค์การตำรวจสากลและได้แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเกี่ยวกับการเพิกถอนหนังสือเดินทางของเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงินได้มีการแบ่งทีมทำงานออกเป็นสองทีม ได้แก่ 

  1. ทีมติดติดตามรายการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีสตาร์ค
  2. ทีมติดตามตัวบุคคล/ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีสตาร์ค

สำหรับคดีนี้คงเป็นมหากาพย์อีกนาน เพราะมีผู้เสียหาย และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากที่ต้องเร่งสอบสวน และหาความจริง เพราะมูลค่าความเสียหายเป็นหลักหลายหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT