ของโปรดวัยเด็กลิซ่า! "หนองโพ" แบรนด์นมไทย อยู่มานานกว่าครึ่งศตวรรษ

ลิซ่า Blackpink ‘เจ้าแม่ Sold out’ แสดงอิทธิฤทธิ์หลายครั้งในปีนี้ ล่าสุด ควงกลุ่มเพื่อน “ดื่มนมหนองโพ” อวดลงสตอรี และถ่ายถุงนมหนองโพ พาสเจอร์ไรส์ รสช็อกโกแลต ลงในสตอรีของไอจี @lalisa_m ซึ่งมีผู้ติดตามทั่วโลก 94 คน พร้อมแคปชั่น “วัยเด็กต้องนี่เลย” ทำเอาชาวเน็ตและสื่อหลายเจ้าเก็งว่า นมถุงขวัญใจลิซ่าแบรนด์นี้ เตรียมขาดตลาดได้เลย!

 

นอกจากกระแสสุดร้อนแรงแล้ว “นมหนองโพ” ก็เป็นแบรนด์นมสำเร็จรูปที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปีแล้ว Spotlight ขอเกาะกระแส พาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับแบรนด์นมระดับตำนานแบรด์นี้

 

“หนองโพ” แบรนด์นมสัญชาติไทย ที่เกิดมาเพื่อช่วยเกษตรกร

 

จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ เกิดขึ้นที่ ‘ตำบลหนองโพ’ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยเมื่อปี ‘พ.ศ. 2505’ นั้น กรมปศุสัตว์ได้เปิดสถานีผสมเทียมขึ้น ณ ตำบลหนองโพ เป็นสถานีผสมเทียมแห่งที่ 3 ของประเทศ ซึ่งการผสมเทียมได้รับความนิยมจากราษฎรมากขึ้นทุกปี ทำให้มีจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเพิ่มมากขึ้น จากนั้น เส้นทางการเดินทางของ ‘แบรนด์หนองโพ และ สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์)’ ที่สำคัญๆ มีดังนี้

• พ.ศ. 2511 -2518
  
  เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จังหวัดราชบุรี ประสบปัญหาสถานที่จำหน่ายน้ำนมดิบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่น้ำนมดิบและประสบภาวะการณ์ขาดทุนในการประกอบอาชีพ บรรดาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจึง ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และถวายฎีกาปัญหาเกี่ยวกับความเดือดร้อนที่ไม่มีตลาดจำหน่ายน้ำนมดิบ
  
  เมื่อความได้ทราบถึงพระเนตรพระกรรณของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงงานเพื่อแปรรูปน้ำนมดิบขึ้นที่บริเวณภายในสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ต่อมาจึงมีพระราชดำริให้มีการสร้างโรงงานเพื่อแปรรูปน้ำนมดิบที่ตำบลหนองโพ ก่อนจะดำเนินการจัดตั้ง จดทะเบียนเป็น “สหกรณ์โคนมราชบุรี จำกัด” ในปี พ.ศ 2514
  
  
  
  
  
  วันที่ 9 มีนาคม 2515 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดโรงงานนมหนองโพ และทรงกำหนดให้ดำเนินการบริหารโรงงานในรูปของบริษัทจำกัด ใช้ชื่อ บริษัท ผลิตภัณฑ์นมหนองโพ จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) และ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงถือหุ้นใหญ่ โดยได้พระราชทานเงื่อนไขไว้ด้วยว่าบรรดาเงินกำไรสุทธิที่บริษัทหาได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมนั้น ไม่มีการแบ่งกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นแต่ให้บริษัทนำกำไรสุทธิส่วนหนึ่งเข้ากองทุนสะสมเพื่อประโยชน์แก่การศึกษาของบุตรหลานสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงโคนมและสมาชิกสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้ส่งนมสดให้แก่โรงงานประจำ
  
  หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2518 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระบรมราชานุมัติให้โอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ผลิตภัณฑ์นมหนองโพ จำกัด ให้ สหกรณ์โคนมหนองโพ จำกัด รับไปดำเนินการ และทรงรับสหกรณ์ไว้ให้อยู่ ในพระบรมราชูปถัมภ์
   
  
• พ.ศ. 2520
  
  หนองโพ เริ่มขยายตลาดนมพาสเจอร์ไรส์มากขึ้น ตามปริมาณน้ำนมดิบที่รับเข้าต่อวัน
   
  
• พ.ศ. 2523
  
  หนองโพ ลงทุนครั้งใหญ่ โดยติดตั้งเครื่องจักรผลิตนมระบบ UHT (ULTRA HIGH TREATMENT MILK) การดำเนินกิจการของสหกรณ์โคนมหนองโพฯ เป็นไปด้วยความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
   
  
• พ.ศ. 2562
  
  หนองโพ เปิดตัว “หนองโพ Cafe” ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านขายเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์หนองโพ อาทิ นมพาสเจอไรซ์, นมสด, ไอศกรีม โยเกิร์ต, สมูทตี้, มิลค์เชค และโยเกิร์ต รวมถึงเมนูฟิวชั่น เจาะกลุ่มลูกค้านักศึกษาและพนักงานออฟฟิศ ปัจจุบันที่มากกว่า 45 สาขา
   
  
• พ.ศ. 2566
  
  และหนึ่งเหตุการณ์ล่าสุดที่ควรค่าแก่การจารึกไว้ในเรื่องราวของหนองโพ คือการไปปรากฏอยู่บน Instagram ของลิซ่า Blackpink และเพื่อนนั่นเอง
   
  

“หนองโพ” หลากหลายผลิตภัณฑ์จากนมโคแท้ 100%
 

หนองโพ นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์หลักอย่าง ‘นมถุง’ หรือนมพาสเจอร์ไรส์ และ ‘นมกล่อง’ หรือนม UHT แล้ว หนองโพยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม นมอัดเม็ด, โยเกิร์ต, โยเกิร์ตพร้อมดื่ม(นมเปรี้ยว), ไอศกรีม จัดจำหน่ายอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์แต่ละกลุ่มมีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรร เช่น รสจืด รสช็อกโกแลต รสสตรอเบอร์รี่ รสกาแฟ, รสส้ม, รสสับปะรด, รสวานิลลา, รสชาไทย, รสชาเขียว ฯลฯ

 

ตลาดนมเมืองไทย ‘2.9 หมื่นล้าน’ แบรนด์ต่างชาติครองแชมป์ - คนไทยดื่มนมน้อยกว่าทั่วโลก 6 เท่า

ศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร (FIC) เผยข้อมูลตลาดนมพร้อมดื่มเมืองไทยจาก Euromonitor ว่าในปี 2565 ที่ผ่านมานั้น ตลาดนมพร้อมดื่มของไทยมีมูลค่า 29,632.4 บาท เติบโตจากปีก่อน 6.8% โดยความต้องการบริโภคทั้งทางตรง และการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่ม เติบโตขึ้นล้อไปกับการฟื้นตัวของธุรกิจด้านอาหารและการท่องเที่ยวทั้งในและระหว่างประเทศ โดย Market Share ของตลาดนม นำโดย 4 แบรนด์ใหญ่ ได้แก่ โฟร์โมสต์, ซีพี-เมจิ, ไทย-เดนมาร์ค, นมตราหมี ตามมาด้วยแบรนด์อื่นในตลาด

ทั้งนี้ สสส. และเครือข่าย นมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน เผยว่า คนไทยดื่มนม “น้อยกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 6 เท่า” โดยดื่มเพียง 18 ลิตร/คน/ปี หรือคิดเป็นสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น

 

คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย หากปรากฏการณ์ของ ลิซ่า เจ้าแม่ Sold out ครั้งนี้ ช่วยกระตุ้นให้แบรนด์ไทยระดับตำนานอย่างหนองโพ ได้ที่นั่งในใจผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่หันมาดื่ม ‘นมถุง’ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยดื่มกันบ่อยครั้งสมัยยังอยู่วัยเรียน และทำให้คนไทยหันมาดื่มนมกันมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี และเพื่อกระตุ้นตลาดนมในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อไปยังเกษตรกรโคนมทั่วประเทศ