แอร์เอเชีย ประกาศคัมแบ็คพร้อมบิน 7 ประเทศ 18 เส้นทาง เดินทางแบบไม่ต้องกักตัว รวม 38 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่ม 1 เม.ย.นี้ ส่วนเดือน พ.ค.นี้เร่งเพิ่มเป็น 81 เที่ยวบิน พร้อมทำงานร่วมกับ ททท. ใกล้ชิด ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย และ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) กล่าวว่า การเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทุกคนต่างรอคอย ทั้งสายการบินและผู้ใช้บริการ จากนโยบายเปิดประเทศที่มากขึ้นและมาตรการเดินทางที่ผ่อนคลายไม่ต้องกักตัว ทำให้เราสามารถทยอยกลับมาบินเส้นทางระหว่างประเทศได้ต่อเนื่อง
โดยเดือนเมษายน 2565 นี้ เราพร้อมเปิดบินพร้อมกัน รวม 7 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา, มาเลเซีย, มัลดีฟส, สิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และอินเดีย 18 เส้นทาง รวม 38 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเพิ่มขึ้นในเดือน พฤษภาคม นี้ รวม 81 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ
“เราเลือกเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศ ที่มีนโยบายเปิดประเทศทั้งสองฝั่ง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสูงสุดในการเดินทาง แบบไม่ต้องกักตัว โดยเป็นเส้นทางบินในแถบประเทศอาเซียน เเละเอเชียใต้ ซึ่งเราทำงานร่วมกับ ททท. เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ภายใต้มาตรฐานการคัดกรองเเละสาธารณสุขที่เข้มข้น โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะสามารถเชื่อมต่อเส้นทางภายในประเทศกับแอร์เอเชียได้ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายกระจายรายได้ทั่วทุกภูมิภาคต่อไป” นายสันติสุขกล่าว
ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศต่างๆ ที่แอร์เอเชียเปิดให้บริการ จะสามารถท่องเที่ยวได้เเบบไม่ต้องกักตัว ตามข้อกำหนดขาเข้าแต่ละประเทศ ในขณะที่การเดินทางขาเข้าประเทศไทย ก็สามารถเดินทางแบบไม่ต้องกักตัวได้ด้วยมาตรการ Test&Go โดยลงทะเบียนรับเอกสารรับรองการเดินทางเข้าประเทศแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ล่วงหน้า สามารถตรวจสอบคุณสมบัติ เอกสารเเละข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tp.consular.go.th/
สายการบินแอร์เอเชีย ยังคงให้บริการโดยยึดมั่นในมาตรฐานด้านสุขอนามัยเเละปลอดภัยสูงสุดในทุกเที่ยวบิน โดยในช่วงต้นปี 2565 แอร์เอเชียได้รับรางวัลสายการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด ด้วยเรตติ้ง 7/7 จาก airlineratings.com และรางวัลสายการบินที่ตรงเวลาที่สุดในโลก ติด 3 อันดับเเรก ประเภทสายการบินราคาประหยัด จาก Cirium ตอกย้ำการพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในปี 2564 บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น มีผลประกอบการที่ขาดทุนสุทธิจำนวน 6,647.49 ล้านบาท โดยมาจากผลกระทบการกลับมาแพร่ระบาดของโรคCOVID-19 ระลอกใหม่นับตั้งแต่ปลายปี 2563 และการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจถูกจำกัดภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดมีผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวและธุรกิจสายการบินของบริษัท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ผู้บริหารเคยให้ข้อมูลว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนระบาดมากขึ้น ทำให้บริษัทเตรียมทบทวนเป้าประมาณการจำนวนผู้โดยสารในปี 65 จากเดิมที่ 13.5 ล้านคน ซึ่งเป็นการประมาณการช่วงที่ยังไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
สำหรับ ในช่วงเดือนมกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ของสายการบินไทยแอร์เอเชียอยู่ที่ประมาณ 75% แต่จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดโอมิครอน ทำให้การเดินทางไม่ค่อยคึกคักมากนัก จึงคาดว่าทั้งไตรมาส 1/65 จะมีจำนวนผู้โดยสารใกล้เคียงไตรมาส 4 ปี 2564 ที่แม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดบ้างแต่การเดินทางยังพลิกฟื้นขึ้นมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ส่วนปัจจัยราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้เห็นว่าเป็นเพียงผลกระทบช่วงสั้น