ธุรกิจการตลาด

ส่อง 5 บริษัท - สายงานยอดฮิต คนแห่สมัครสูงสุดประจำปี 64

12 มี.ค. 65
ส่อง 5 บริษัท - สายงานยอดฮิต คนแห่สมัครสูงสุดประจำปี 64

“JobThai” เผยรายชื่อ 5 บริษัทที่คนไทยสนใจสมัครงานมากที่สุดปี 64 “ไทยเบฟ” คว้าอันดับ 1 ยอดผู้สมัครกว่า 9 หมื่นครั้ง ด้าน 5 สายงานสุดฮอตที่เปิดรับมากสุดในปี 64 มี “งานขาย” มาเป็นอันดับหนึ่งที่กว่า 3 แสนตำแหน่ง

 

istock-1368397493(1)
 

คุณแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของจ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มหางานและสมัครงานออนไลน์ เปิดเผยข้อมูลภาพรวมการหางาน สมัครงาน และการจ้างงานปี 2564 พร้อมเผยผลสำรวจการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานจากฝั่งขององค์กรและฝั่งของคนทำงาน
 

ด้านภาพรวมของผู้ใช้บริการหางาน และสมัครงานในปี 2564 พบว่า มีจำนวนการใช้งานมากกว่า 18.5 ล้านคน เติบโตขึ้น 12.38% มีการสมัครงาน 17,161,667 ครั้ง ส่วนข้อมูลด้านความต้องการแรงงานขององค์กรในจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม พบว่า องค์กรมีความต้องการแรงงานในปี 2564 ทั้งหมด 602,436 อัตรา มีอัตราการเปิดรับเพิ่มขึ้นจากปี 2563 คิดเป็น 24%

โดย 5 สายงานที่เปิดรับมากที่สุด ได้แก่

 

งานขาย 321,505 อัตรา
งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 183,903 อัตรา
งานช่างเทคนิค 175,083 อัตรา
งานธุรการ/จัดซื้อ 87,731 อัตรา
งานวิศวกร 81,982 อัตรา

 

istock-949182974(2)



สำหรับ 5 บริษัทที่คนสมัครงานเยอะมากที่สุดในปี 2564 ได้แก่

 

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีการสมัครงานถึง 90,727 ครั้ง
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) มีการสมัครงาน 76,642 ครั้ง
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีการสมัครงาน 64,558 ครั้ง
บริษัท โรม อินทิเกรเต็ด ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีการสมัครงาน 51,854 ครั้ง
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มีการสมัครงาน 48,265 ครั้ง

 

ซึ่งเป็นการนับจำนวนครั้งการสมัครที่เกิดขึ้นผ่านจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม นอกจากตัวเลขดังกล่าวแล้ว ยังมีการสมัครผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การส่งใบสมัครผ่านอีเมล


ส่วนด้านธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้ผลกระทบทางลบโดยตรงจากโควิดทำให้การเปิดรับคนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2563 เริ่มกลับมามีแนวโน้มความต้องการของแรงงานเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 และมีแนวโน้มดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน

 

837946

 

นอกจากนี้ จ๊อบไทยได้เผยผลสำรวจรูปแบบการทำงานในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาพบว่า คนทำงานส่วนใหญ่กว่า 56.65% ไม่ได้ทำงานแบบ Work from Home ส่วนคนทำงานที่ได้ Work from Home กว่า 70.95% ให้ความคิดเห็นว่าการทำงานแบบนี้ทำให้ขาดการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน

advertisement

SPOTLIGHT