‘แอมะซอน’ (Amazon) บริษัทเทคโนโลยีใหญ่จากสหรัฐฯ ลงทุนเงินเพิ่มอีก 2.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 แสนล้านบาทใน Anthropic สตาร์ทอัพพัฒนา AI จากซานฟรานซิสโก ลุยอุตสาหกรรม AI หวังนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการ รวมถึง การหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจเพิ่มรายได้บริการศูนย์ข้อมูล
นอกจากนี้ Anthropic ยังได้ตกลงใช้บริการศูนย์ข้อมูล Amazon Web Services ในการเก็บข้อมูลพัฒนา AI และใช้ชิปเซ็ตสั่งทำจากแอมะซอน ทำให้จากดีลครั้งนี้ แอมะซอนจะมีพาร์ทเนอร์ธุรกิจเพิ่มและได้รับรายได้จากการให้บริการศูนย์ข้อมูลและขายชิปเซ็ตแก่ Anthropic ด้วย
ก่อนหน้าการลงทุนในครั้งนี้ แอมะซอนเคยลงทุนใน Anthropic มาแล้วครั้งหนึ่งเป็นมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้หากรวมทั้งหมด แอมะซอนจะลงทุนเงินไปกับ Anthropic แล้ว 4 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จากการประเมินครั้งล่าสุด Anthropic มีมูลค่าทั้งหมด 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้หลังการลงทุนในครั้งนี้ แอมะซอนจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ Anthropic และจะไม่เข้าไปมีส่วนในการบริหาร
Anthropic ตัวเต็งผู้พัฒนา AI สมรรถภาพสูงตัวถัดไป
การลงทุนในครั้งนี้นับเป็นกลยุทธ์ของแอมะซอนในการเข้าไปมีส่วนร่วมและรับผลตอบแทนในอนาคตจากอุตสาหกรรมพัฒนาเอไอ โดยเฉพาะ Generative AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Dall-E ที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีโอกาสในการพัฒนาไปเป็นเครื่องมือเชิงพาณิชย์ได้สูงในอนาคต
ปัจจุบัน Anthropic ถือเป็นสตาร์ทอัพแนวหน้าในการพัฒนา Generative AI ที่มีสมรรถภาพสูง และเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ OpenAI เพราะถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 2021 โดยพนักงานเก่าของ OpenAI ทำให้มีความเชี่ยวชาญและ know-how ในการพัฒนา AI ไม่แพ้กัน และมีลูกค้าเป็นธุรกิจใหญ่หลายราย ทั้งบริการเสิร์ชเอนจิ้น DuckDuckGo และผู้ให้บริการข้อมูลท่องเที่ยว Lonely Planet
โดยในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา Anthropic เพิ่งเปิดตัว Claude 3 แชทบอทเอไอคล้าย ChatGPT ที่ทาง Anthropic กล่าวว่ามีประสิทธิภาพ และความแม่นยำสูงกว่า GPT-4 ของ OpenAI และ Gemini Ultra ของ Google จากการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม
จากความสามารถด้านเทคโนโลยี Anthropic จึงสามารถระดมทุนได้รวมถึง 7.3 พันดอลลาร์สหรัฐแล้วจากบริษัทใหญ่ๆ มากมาย ไม่ใช่แต่เฉพาะแอมะซอน เช่น Google
ปัจจุบัน AI และ Machine Learning เป็นอุตสาหกรรมที่บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ในโลกต่างแย่งกันลงทุน โดยในปี 2023 ‘บริษัท 7 นางฟ้า’ หรือ Amazon, Microsoft, Apple, Nvidia, Alphabet, Meta และ Tesla ได้ลงทุนในอุตสาหกรรมนี้รวมทั้งหมด 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022