ธุรกิจการตลาด

ฟอร์ดยอดขายโต 10.5% ไฮบริด-ไฟฟ้าพุ่งแรง แซงหน้าคู่แข่ง

6 มี.ค. 67
ฟอร์ดยอดขายโต 10.5% ไฮบริด-ไฟฟ้าพุ่งแรง แซงหน้าคู่แข่ง

ยอดขายฟอร์ดในสหรัฐอเมริกามีการเติบโตอย่างโดดเด่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 พุ่งสูงถึง 10.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตครั้งนี้?

 

ฟอร์ดยอดขายโต 10.5% ไฮบริด-ไฟฟ้าพุ่งแรง แซงหน้าคู่แข่ง

 ฟอร์ดยอดขายโต 10.5% ไฮบริด-ไฟฟ้าพุ่งแรง แซงหน้าคู่แข่ง

ฟอร์ดมอเตอร์ประกาศยอดขายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 10.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือยอดขายรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ของบริษัทในการมุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับรายละเอียดยอดขายรวมของฟอร์ดมอเตอร์ในสหรัฐฯ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 174,192 คัน โดย รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 81% และ รถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้น 32%


ยอดขายรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้า โตอย่างโดดเด่น ส่วนทางกับยอดขายรถกระบะที่ลดลง

ฟอร์ดยอดขายโต 10.5% ไฮบริด-ไฟฟ้าพุ่งแรง แซงหน้าคู่แข่ง

เวลานี้คนซื้อรถยนต์กำลังหันมาสนใจรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะอยากมีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ตามข้อมูลของฟอร์ด พบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ รถไฮบริดขายได้ถึง 12,045 คัน ไฮไลท์อยู่ที่รถกระบะขนาดเล็กอย่าง Maverick Hybrid ที่ขายได้ถึง 6,463 คัน นี่แสดงให้เห็นว่าฟอร์ดกำลังพัฒนาตัวเลือกในกลุ่มรถไฮบริดให้มากขึ้นตามที่ตั้งใจไว้ ฝั่งรถยนต์ไฟฟ้าเองก็ขายดีขึ้นเยอะ โดยเฉพาะ Mustang Mach-E (ยอดขายเพิ่ม 64.3%) และรถกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning (ยอดขายเกือบสองเท่าตัว) ถึงอย่างนั้น รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมก็ยังขายดีอยู่ คิดเป็น 89.5% ของยอดขายรวม แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคกำลังค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้รถรักษ์โลกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของฟอร์ดก็ยังผันผวนไปมาทุกเดือน ขึ้นอยู่กับความต้องการและกลยุทธ์ด้านราคาในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

ด้านฝั่ง รถยนต์กระทะ ยังคงเผชิญกับความท้าทาย จากยอดขายรถกระบะ F-Series ซึ่งเป็นรถยนต์ทำกำไรสูงของฟอร์ด ลดลง 5.8% เหลือ 51,829 คันในเดือนที่แล้ว เนื่องจากการส่งมอบรถรุ่นใหม่ปี 2024 ล่าช้าจากปัญหาคุณภาพที่ยังไม่ได้เปิดเผย ในการตอบสนองต่อปัญหานี้ Jim Farley ซีอีโอได้ดำเนินการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวดมากขึ้นในระหว่างการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เพื่อรักษาความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศของแบรนด์


ยอดขายดี ราคาหุ้นพุ่ง

ฟอร์ดยอดขายโต 10.5% ไฮบริด-ไฟฟ้าพุ่งแรง แซงหน้าคู่แข่ง

ยอดขายที่น่าประทับใจในเดือนกุมภาพันธ์ส่งผลดีต่อหุ้นของฟอร์ด โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา นับว่าทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวม เพราะคู่แข่งอย่าง General Motors และ Stellantis มีผลประกอบการเติบโตน้อยกว่า ความตั้งใจของฟอร์ดในการขยายกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพและความน่าเชื่อถือของรถยนต์ ทำให้ฟอร์ดอยู่ในจุดที่ดีและจะเติบโตได้อีกในตลาดรถยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ฟอร์ดเดินหน้าฝ่าความท้าทายและคว้าโอกาสในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด ยอดขายที่โดดเด่นนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถปรับตัวและมองไปข้างหน้าได้ดี ความต้องการของผู้บริโภคที่อยากใช้รถยนต์รักษ์โลกเพิ่มมากขึ้น เมื่อประกอบกับยอดขายที่แข็งแกร่ง บ่งชี้ว่าฟอร์ดจะมีอนาคตที่ดีในการเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์ที่กำลังก้าวไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า

ที่มา yahoofinance , bnnbreaking และ cnbc

advertisement

SPOTLIGHT