ธุรกิจการตลาด

KFC ปล่อยแคมเปญวันแม่ 'Let Mom Rest' ชวนพ่อลูกช่วยงานบ้านให้แม่พัก

9 ส.ค. 66
KFC ปล่อยแคมเปญวันแม่ 'Let Mom Rest' ชวนพ่อลูกช่วยงานบ้านให้แม่พัก

KFC จับมือแบรนด์ แม่บ้าน แม่ครัว แม่ศรีเรือน ปล่อยแคมเปญ “Let Mom Rest” เหนื่อยนักพักก่อนแม่ ชวนตัวพ่อตัวลูกช่วยงานบ้านในวันแม่ ให้ตัวแม่ ตัวมัม ตัวมารดา ได้พักงานหนัก พักผ่อน ทำเพื่อตัวตัวเองในวันแม่ที่จะถึง พร้อมแย้มโปรโมชั่นดีๆ ฉลองวันแม่เร็วๆ นี้

นับว่ามาไวเกาะกระแสได้ตลอดสำหรับ KFC ที่ออกแคมเปญมาให้เป็นที่ฮือฮาได้ทุกช่วงเทศกาล ในวันแม่ปีนี้ก็ไม่แพ้กัน เมื่อทาง KFC ร่วมมือกับแบรนด์ขวัญใจแม่บ้านถึง 3 แบรนด์ คือ แม่บ้าน แม่ครัว แม่ศรีเรือน ออกแคมเปญรณรงค์ให้ทุกคนในครอบครัวช่วยแบ่งเบางานบ้าน ‘แบบไม่เกี่ยงเพศ’ ผ่านการเล่นคำ แทนคำว่า ‘แม่’ เป็น ‘พ่อ’ ในชื่อแบรนด์ พร้อมใส่ภาพผู้พันแซนเดอร์ในโลโก้แทนเหล่าแม่บ้าน เพื่อชี้ว่านอกจากผู้หญิง ผู้ชายก็ทำงานบ้านได้ 

366687465_6472609356127373_48

พร้อมชวนให้คิดถึงความสำคัญของงานบ้าน ซึ่งแท้จริงเป็นงานหนัก ไม่มีวันหยุดเพราะต้องทำ 365 วัน ผ่านคำโปรยน่ารักๆ อย่าง 

  • ”รัก..แม่ครัว” ให้แม่ออกจากหน้าเตา ไปพักทำให้หน้าฉ่ำเงา
  • “รัก..แม่บ้าน” บอกแม่หยุดล้างจาน พ่อลูกขอล้างให้แบบไม่มีคำว่า ‘เดี๋ยว’
  • “รัก..แม่ศรีเรือน” พาแม่ออกจากเรือน แล้วพ่อๆ ขอสวมผ้ากันเปื้อนแทน

ซึ่งเมื่อได้อ่านข้อความเหล่านี้แล้ว ภาพของแม่ที่นอกจากต้องไปทำงานนอกบ้าน ยังต้องกลับมาทำกับข้าว ล้างจาน กวาดเช็ดถูบ้านให้เรามีบ้านสะอาดๆ อยู่ คงเข้ามาในความคิดของหลายๆ คน ชวนให้เราอยากพาแม่ไปพักผ่อนบ้าง นับเป็นแคมเปญปังๆ ที่นอกจากจะส่งต่อแนวคิดดีๆ ด้านความเท่าเทียมทางเพศแล้ว อาจจะยังให้เหล่าตัวพ่อตัวลูกอยากพาตัวแม่ไปอิ่มอร่อยกับไก่เคเอฟซีในวันแม่ที่จะถึงนี้ด้วย

 

งานบ้าน คือ “งานที่ไม่ได้เงิน” ผู้หญิงทั่วโลกรับภาระ ชีวิตเหนื่อยสองเท่า 

ตามปกติเมื่อเราเห็นผู้หญิงเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกโดยไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก หลายๆ คนอาจจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้น ‘ไม่มีงานทำ’ แต่แท้จริงแล้วตามความหมายของการทำงาน ผู้หญิงเหล่านี้กำลังทำ “งานที่ไม่ได้ค่าแรง” (unpaid work) อยู่ เพราะเช่นเดียวกับงานที่ได้เงิน งานบ้านก็คือการใช้แรงกายของมนุษย์เพื่อสร้างผลผลิตบางอย่าง และถือเป็นงานบริการที่ทำให้ชีวิตคนในบ้านสะดวกสบายขึ้นเช่นเดียวกับพนักงานทำความสะอาดมืออาชีพทั่วไป

โดยจากข้อมูลของ UN Women ในปัจจุบันผู้หญิงทั่วโลกทำงานที่ไม่ได้เงินนี้มากกว่าผู้ชายอย่างน้อย 2 เท่าครึ่ง และในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงไทย ผู้หญิงต้องรับภาระทำงานที่ไม่ได้เงินถึงเฉลี่ยวันละ 4.11 ชั่วโมง ในขณะที่ผู้ชายต้องทำเพียง 1.31 ชั่วโมง

จากข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) ยังระบุอีกว่า ทั่วโลกผู้หญิงวัยทำงาน 21.7% ต้องทำงานดูแลเต็มเวลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายเพียง 1.5% ทั่วโลกเท่านั้นที่ต้องรับภาระนี้

การที่ผู้หญิงต้องทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้านย่อมทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมทางเพศ ทำให้ผู้หญิงมีเวลาดูแลตัวเอง หรือไปตั้งใจทำงานในภาคการจ้างงานให้มีความเจริญก้าวหน้าในสาขาอาชีพได้ยากขึ้น ซึ่งในช่วงสามปีที่มีการระบาดของโควิด-19 ความไม่เท่าเทียมนี้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เพราะทั้งโรงเรียน ศูนย์รับดูแลเด็กเล็กต้องปิดทำการ ทำให้ผู้หญิงต้องดูแลลูกพร้อมทำงานไปด้วยแทบจะ 24 ชั่วโมง 

โดยจากผลการวิเคราะห์ของ ILO พบว่า มีคนทั่วโลกต้องทำงานแบบไม่ได้ค่าแรงถึง 2 พันล้านชั่วโมงต่อวัน และ 75% ของชั่วโมงการทำงานนั้นตกเป็นภาระของผู้หญิง

แท้จริงแล้ว งานบ้าน คือ งานชนิดหนึ่งที่สังคมคาดหวังผู้หญิงทำให้ครอบครัวแบบ ‘ฟรีๆ’ ตลอด 365 วันแบบไม่มีการพักผ่อน ทำให้ผู้หญิงจะยังคงไม่ได้รับความเท่าเทียมอย่างเต็มที่ในตลาดแรงงานตราบใดที่หน้าที่ให้การทำงานบ้านยังเป็นหน้าที่หลักของผู้หญิงอยู่ 

และการจะแก้ปัญหานี้ คือ การที่สังคมต้องเริ่มเปลี่ยนทัศนคติ สั่งสอนเด็กทุกคนว่า “งานบ้าน คือ หน้าที่ของมนุษย์ทั่วไป” ไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์ผู้หญิง และทุกคนควรจะช่วยแม่ทำงานบ้านทุกวัน ไม่ใช่แค่ในวันแม่เท่านั้น



ที่มา: ILO UN Women 



advertisement

SPOTLIGHT