ธุรกิจการตลาด

กสิกรไทยมุ่งเป็น1ใน20ธนาคารใหญ่ในเวียดนามในปี70 รายได้1.32หมื่นล้าน

10 มี.ค. 66
กสิกรไทยมุ่งเป็น1ใน20ธนาคารใหญ่ในเวียดนามในปี70 รายได้1.32หมื่นล้าน

ธนาคารกสิกรไทยมองตลาดเวียดนามสดใส เศรษฐกิจมีศักยภาพเติบโตสูง เตรียมออกบริการทางการเงินเต็มรูปแบบทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ (Transactional Ecosystem) ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มองค์กร บริษัทขนาดกลาง กลุ่มค้าปลีก และลูกค้ารายย่อย ตั้งเป้าหมายรายได้สุทธิ 1.32 หมื่นล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างที่ 1.8 แสนล้านบาท และมีฐานลูกค้าเวียดนาม 8.4 ล้านรายภายในปี 2570 

s__33833089

นายชัช  เหลืองอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ระบบเศรษฐกิจของเวียดนามพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตถึง 8.02% ในปี 2565 เป็นการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบ 25 ปี และมี GDP สูงเป็นอันดับที่ 30 ของโลก เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมธนาคารของเวียดนาม ที่ถึงแม้จะยังค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับประเทศในละแวกเดียวกัน แต่กลับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

นอกจากนี้ เศรษฐกิจของเวียดนามยังมีศักยภาพในการเติบโตสูง เพราะได้เปรียบด้านประชากรวัยทำงานที่มีปริมาณสูง อีกทั้งยังมีแหล่งทรัพยากรต่าง ๆ ภายในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเวียดนามจะกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (Newly Industrialized Country หรือ NIC) ภายในปี 2573 และจะยกระดับเป็นประเทศที่มีสถานะรายได้ปานกลางถึงระดับสูง และเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2588 

เพื่อรองรับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ รัฐบาลเวียดนามจึงมุ่งหน้าผลักดันการพัฒนาบริการทางการเงินแบบดิจิทัล เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น เป็นผลให้ประเทศเวียดนามมีบันทึกมูลค่าการชำระเงินแบบดิจิทัลสูงสุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทางธนาคารกสิกรไทยเองเล็งเห็น

โดยจากข้อมูลของธนาคารกสิกรไทย เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพและน่าจับตามองในด้านการลงทุน จากการที่เวียดนามมีประชากรมากกว่า 100 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประชากรกลุ่มนี้ได้ขยายตัวและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกว่า 69% ของคนวัยกลุ่มนี้ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในเอเชีย ทำให้เวียดนามยังเป็นตลาดที่ธนาคารยังมีโอกาสขยายธุรกิจและฐานลูกค้าได้สูง

นายชัช  กล่าวว่า เพื่อขึ้นเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570 ทั้งในแง่สินทรัพย์ รายได้ และฐานลูกค้า ธนาคารกสิกรไทยจะเดินหน้ากลยุทธ์การให้บริการทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ (Transactional Ecosystem) เพื่อรองรับทุกความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น เริ่มตั้งแต่แอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมการเงินของผู้ใช้งานลื่นไหล สะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชั่นและระบบปฏิบัติการที่พัฒนาผ่านบริษัท KBTG Vietnam (KASIKORN BUSINESS-TECHNOLOGY GROUP Vietnam) ให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนเวียดนามมากที่สุด เช่น การใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) เพื่อทำให้การอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนทำงานได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยี Liveness Detection เพื่อตรวจจับและป้องกันการปลอมตัวบุคคลในขั้นตอนของการสมัครใช้งาน เป็นต้น 

นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยในเวียดนามได้สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในเวียดนาม ด้วยการพัฒนาเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด และรองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต และการแสกนจ่ายผ่าน QR Code ทุกประเภท และเพื่อให้การทำธุรกรรมของลูกค้าเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ 

ทั้งนี้ ธนาคารเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นคือ บัตรเดบิต ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ารายย่อยในการทำธุรกรรมชำระเงิน  และกดเงินสดโดยสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวก ด้วยแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam เมื่อได้รับการอนุมัติ บัตรเดบิตจะถูกส่งไปถึงบ้านของผู้สมัครถึงที่ ไม่ต้องไปดำเนินการที่ธนาคารอีกต่อไป

สำหรับอีกกลุ่มลูกค้าที่ธนาคาร ให้ความสำคัญ คือ ลูกค้าองค์กร โดยสร้างเครือข่าย Internet Banking เพื่อให้องค์กรจัดการเงินสดและบัญชีเงินเดือนสำหรับพนักงานได้อย่างสะดวกและราบรื่น รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อดิจิทัล ด้วยผลิตภัณฑ์ KBank Biz Loan เพื่อเจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่สามารถทำธุรกรรมได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam และผลิตภัณฑ์ KBank Pay Later สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ต้องการขอสินเชื่อดิจิทัลเพื่อการซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยการทำพันธมิตรธุรกิจร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซท้องถิ่น Meta ที่ขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 

นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย ยังได้เดินหน้าหาพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION CO., LTD.) หรือ KVision ที่เฟ้นหาบริษัทหรือสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจไปด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมลงทุนกับหลายบริษัทในเวียดนาม เช่น Sendo, KiotViet, Seedcom, Jio Health, Selly และอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าสนใจนั่นก็คือ Lich Viet แอปพลิเคชันเกี่ยวกับเรื่องดูดวงที่กำลังมาแรง ด้วยยอดผู้ใช้บริการกว่า 13 ล้านคน

ในการมุ่งสู่เป้าหมายครั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยมีความตั้งใจในการมอบประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้แก่ชาวเวียดนาม ด้วยความชำนาญที่การันตีด้วยรางวัลทางการเงินในระดับภูมิภาค การมีแอปพลิเคชันโมบายแบงกิ้งอันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 19 ล้านคน  รวมถึงการเป็นธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุด รวมทั้งมีเครือข่ายระดับภูมิภาคกับพันธมิตรกว่า 70 แห่ง ทั่วยุโรปและเอเชีย จึงมั่นใจได้ว่าด้วยประสบการณ์ ศักยภาพ และมาตรฐานระดับสากลที่พร้อมมอบบริการทางการเงินด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญของธนาคารกสิกรไทยจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศเวียดนามได้อย่างแน่นอน 

 

 




advertisement

SPOTLIGHT