ธุรกิจการตลาด

ส่องงบ บมจ.บ้านปู กำไรพุ่ง 282% รายได้ 2.7 แสนล้าน กำไร 4 หมื่นล้าน

2 มี.ค. 66
ส่องงบ บมจ.บ้านปู กำไรพุ่ง 282% รายได้ 2.7 แสนล้าน กำไร 4 หมื่นล้าน

ช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทำให้เห็นว่าในปี 2565 ที่ผ่านมาหลายบริษัทมีผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก กรณีของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน ผลประกอบการในปี 2565 พบว่า มีรายได้แล้วกำไรสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท และสูงกว่าในปี 2564 ถึงเกือบ 3 เท่าตัว

รู้จักบ้านปู ธุรกิจพลังงานรายได้เกือบ 3 แสนล้านบาท

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นับเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของบ้านเรา ทำ 3 กลุ่มธุรกิจหลักด้านพลังงานคือ  

  1. กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน
  2. กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน
  3. กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน

ธุรกิจของบ้านปูทั้งในประเทศไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม  

ผลประกอบการบ้านปู 2565

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดผลการดำเนินธุรกิจปี 2565 มีรายได้จากการขายรวม 7,693 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 272,270 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,570 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 139,080 ล้านบาท) คิดเป็น  87  % มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 3,916 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 137,300 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 120 %  จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,162 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 40,519 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 282 %

ทั้งรายได้ และ กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของบ้านปูมาจากราคาพลังงานโลกที่ปรับขึ้นในปี 2565 และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจด้วยความคล่องตัวและยืดหยุ่น ทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงเพื่อสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2566 บ้านปูยังคงเดินหน้าเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Banpu Transformation) ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน

เดินกลยุทธ์ธุรกิจ Greener & Smarter

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปี 2565 เป็นปีที่บ้านปูมีผลประกอบการที่ดีเป็นประวัติการณ์ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสามเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากอานิสงส์ที่ได้รับจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงแล้ว บริษัทฯ ยังเน้นการดำเนินงานที่คล่องตัวและยืดหยุ่นในทุกหน่วยธุรกิจ รวมถึงการเร่งขยายธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างจริงจังตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่องจากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้น

เช่น การขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา และการขยายพอร์ตธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในเอเชียแปซิฟิก ควบคู่ไปกับการหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานซึ่งเป็นจุดแข็งของบ้านปูในปัจจุบันและธุรกิจที่นอกเหนือจากพลังงานเพื่อสร้าง New S-Curve ใหม่ๆ 

 สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)

สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2566-2568 นี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter โดยวางแนวทางสำคัญสำหรับ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้

1.กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน

สำหรับธุรกิจเหมือง ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เน้นประสิทธิภาพการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพ ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น แร่แห่งอนาคต (Strategic Minerals)  

ทางด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ คงความเป็นผู้นำในการผลิตก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา แสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจที่ส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ และพัฒนาโครงการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน ดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก scope 1 และ 2 ภายในปี 2568

2.กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน

เพิ่มมูลค่าและรักษาประสิทธิภาพการผลิตในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า การซื้อขายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าเสรี มองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มในประเทศยุทธศาสตร์ที่บ้านปูดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว

3.กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน

สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในพอร์ตธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสด ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่ส่งเสริมศักยภาพและการเติบโตซึ่งกันและกัน ตลอดจนแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ (New S-Curve) ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้เพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นในบริษัท ดูราเพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ จํากัด (Durapower) จากร้อยละ 47.68 เป็น ร้อยละ 65.10 ด้วยเงินลงทุน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรี่ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งในการเชื่อมโยงระบบนิเวศที่แข็งแกร่งภายในกลุ่มบริษัทบ้านปู

“ปี 2566 นี้ บ้านปูจะมีอายุครบ 40 ปี เรายังคงเดินหน้านำเสนอโซลูชันด้านพลังงานที่ดีที่สุด ต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ให้แข็งแกร่ง และขยายการลงทุนที่ตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต ทั้งนี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับโลกและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม (Better Living for All) ซึ่งเป็นไปตามพันธสัญญา “พลังบ้านปู สู่พลังงานที่ยั่งยืน (Our Way in Energy)” นางสมฤดี กล่าวปิดท้าย  

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT