ธุรกิจการตลาด

Scoozi Pizza ปรับโฉมใหญ่เตรียมขายแฟรนไชส์กว่า 200 สาขา

12 ก.พ. 66
Scoozi Pizza ปรับโฉมใหญ่เตรียมขายแฟรนไชส์กว่า 200 สาขา

พิซซ่า คือหนึ่งในอาหารต่างชาติที่ได้รับความนิยมในไทย โดยตลาดพิซซ่าในไทยมีมูลค่าประมาณ1,500 ล้านบาทต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากปัจจุบันวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทานพิซซ่ามากขึ้น แบรนด์ Scoozi Pizza คืออีกแบรนด์พิซซ่าที่มีชื่อเสียงและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เข้ามาตีตลาดในไทย ล่าสุดได้เปิดแผนกลยุทธ์ชุดใหญ่ในปี2565 

 

แนวโน้มตลาดพิซซ่าในไทย 5ปี เพิ่มขึ้น 30 %

 

มร.แกรี่ เมอร์เรย์ (Mr.Gary Murray) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง เดสติเนชั่น กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทั่วโลกมีการบริโภคพิซซ่าจำนวนกว่า 5,000 ล้านชิ้นต่อวัน ส่วนตลาดพิซซ่าในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1,500 ล้านบาทต่อปี และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี จากปัจจัยบวกตลาดวัยรุ่น ครอบครัว ขยายตัวมากขึ้น ทำให้แนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมอาหารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 30% ในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2571 

mr.garymurray-dg

“Destination Eats เข้าซื้อ Scoozi Pizza ในปี 2563 โดยเป็นเจ้าของและผู้ประกอบการแบรนด์ดังหลายแห่งทั่วประเทศ ทั้ง Hard Rock Café, Hooters Restaurants และ Big Boy Burgers เป็นต้น พร้อมพลิกโฉม Scoozi  Pizzaใหม่ ปรับปรุงเมนู ตกแต่งร้าน ยกระดับคุณภาพพิซซ่า ปัจจุบันลูกค้าชาวไทยต่างมองหาพิซซ่าอิตาเลียนระดับพรีเมียมแบบดั้งเดิม ใช้วัตถุดิบสดใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งราคาขายพิซซ่าของเราอยู่ที่ต่อชิ้นอยู่ระหว่าง 400-590 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลูกค้ายินดีจ่าย เราวางเน้นเจาะตลาดระดับบน เพื่อสามารถทำกำไรให้กับธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้น มร.แกรี่ เมอร์เรย์ กล่าว

 

ด้านนางสาวอังคณา นิลกำเหนิด  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจแฟรนไชส์ Scoozi เปิดเผยว่า ปัจจุบัน เทรนด์การกินพิซซ่าเปลี่ยนไป  เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วโลก และมีโอกาสลิ้มลองรสชาติต้นตำรับ ทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มมองหาพิซซ่าที่ใช้วัตถุดิบจากประเทศต้นตำรับและขึ้นแป้งแบบสด ไม่ใช่พิซซ่าจากแป้งแช่แข็งมากขึ้น ซึ่งตรงกับ DNA ของ Scoozi Pizza ซึ่งให้บริการในรูปแบบ Lifestyle Casual Dinning เน้นคุณภาพของวัตถุดิบสดใหม่ การให้บริการที่ดี ซึ่งแตกต่างจากร้านพิซซ่า QSR(Quick Service Restaurant) ทั่วไปในตลาด



ลุยเปิดเพิ่มอีก 5 สาขาในไทย 

 

สำหรับกลยุทธ์การตลาดมในปี 2566 นี้ บริษัทมีแผนรุกตลาดพิซซ่าอย่างเข้มข้น เพื่อก้าวขึ้นเป็น “Leading Urban Pizza Brand” โดยปรับโฉม Scoozi Pizza เพื่อรุกตลาดพรีเมียมแมสมากขึ้น รวมถึงแผนการตลาดอื่นๆ ดังนี้

-ขยายสาขาเพิ่ม 5  สาขา จากปัจจุบันมี 7 สาขา ประกอบด้วย ซอยสาธร10, เอมควอเทียร์ Helix ชั้น6, เซนทรัลแจ้งวัฒนะ ชั้น5  เอกมัย ซอย19 มาเก็ตวิลเลจหัวหิน ชั้น2, เทอร์มินอล 21 พัทยา และสาขาล่าสุด ภูเก็ต 

-มี “Scoozi ghost kitchen” เพื่อรองรับการให้บริการเดลิเวอรี่ อีก 4 สาขา คือ ลาดพร้าว,อารีย์, อ่อนนุชและอโศก สั่งผ่านแอพเดลิเวอรี่ได้ ทั้ง Grab, Line Man, Food Panda, Robinhood, Shopee

-เจาะกลุ่มครอบครัวที่ผู้ปกครองมีอายุ 35 ปีขึ้นไป นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัย กลุ่มคนทำงาน และชาวต่างชาติในประเทศไทยทั้งนักท่องเที่ยว และอยู่ระยะยาว (Expat)

scoozi(3)

 

อย่างไรก็ตาม Scoozi Pizza  คือแบรนด์ที่มีความแข็งแรงและเป็นที่รู้จักอย่างดีในประเทศไทยมากว่า 27 ปี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทมีแผนการทำตลาดอย่างเข้มข้นเพื่อรุกเข้ามาในตลาด Premium mass pizza ภายใต้ 3 กลยุทธ์ 

-1.Digital Marketing 

2.การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าในการได้ลิ้มลองรสชาติพิซซ่าที่ไม่เคยได้จากที่อื่นและอร่อยเกินคาด (Experience Marketing)

-3. ชูนวัตกรรมการวิจัยและพัฒนา (R&D) สินค้าที่มีคุณภาพ (Innovative Product)

 

ผุดโมเดลขายแฟรนไชส์ 200 สาขาใน 5 ปี ทั้งในไทยและต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มบิสสิเนสโมเดลใหม่ ขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเน้นทำเลศักยภาพ ในห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, Stand alone และ อาคารสำนักงาน เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าโมเดลแฟรนไชส์ 200 สาขาใน 5 ปี  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ไทย เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะเริ่มขายแฟรนไชส์ ในประเทศ ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้   ซึ่งมีงบประมาณการลงทุนราว 3-4 ล้านบาท ต่อสาขา ใช้ระยะเวลาคืนทุน 2-3 ปี

scoozi(5)

เรียกได้ว่า Scoozi Pizza เปิดเกมการตลาดอย่างเข้มข้นมากๆในปี2566 นี้ พลิกโฉมครั้งใหญ่บุกตลาดพรีเมียมแมส พร้อมผุดโมเดลแฟรนไชส์ทั้งในและต่างประเทศกว่า 200 สาขา ในไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ใน 5 ปี หวังกรุยทางสู่ “Leading Urban Pizza Brand”

advertisement

SPOTLIGHT