ธุรกิจการตลาด

สรุปรวมดีลบางจาก ซื้อกิจการ ESSO ขึ้นแท่นเบอร์ 2 ปั๊มน้ำมันมากสุดในไทย

13 ม.ค. 66
สรุปรวมดีลบางจาก ซื้อกิจการ ESSO ขึ้นแท่นเบอร์ 2 ปั๊มน้ำมันมากสุดในไทย

 

ดีลใหญ่! รับปีกระต่ายทอง บางจากซื้อกิจการ ESSO 

เมื่อวานนี้ข่าวใหญ่ในวงการพลังงานคือการที่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศปิดดีลซื้อหุ้นของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. หรือ เอ็กซอนโมบิล เม็ดเงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่ได้มูลค่ากิจการเอสโซ่ 55,000 ล้านบาท ส่งผลให้ทางบางจากขึ้นแท่นเป็นบริษัทพลังงาน ที่มีกำลังการกลั่นมากเป็นอันดับต้นๆในประเทศไทย และมีสถานีบริการน้ำมันมากเป็นอันดับ2 อีกด้วย  วันนี้ SPOTLIGHT สรุปความสำคัญของดีลใหญ่นี้มาให้

บางจากได้ประโยชน์อะไรจากการซื้อเอสโซ่ 

หลายคนอาจจะมีคำถามว่าทำไมบางจากต้องทุ่มเงินราว 3 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อบริษัทพลังงานฟอสซิลทั้งที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน ซึ่งเมื่อวานช่วงบ่าย คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ได้มีการระบุถึงดีลนี้ว่า เป็นดีลที่มีการพูดคุยกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว บางจากเล็งเห็นถึงโอกาสที่ทำรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากดีลนี้ 

1.สิ่งแรกที่บางจากได้คือ ความประหยัดต่อขนาด หรือ Economy Of Scale  เมื่อรวมสถานีบริการน้ำมันของบางจากกับเอสโซ่ (700สาขา) แล้ว มีจำนวน 2,100 สาขา โดยจะแปลงเป็นชื่อสถานีบริการน้ำมันบางจากได้ภายใน 2 ปี 

2.โรงกลั่นน้ำมันรวมกันจากดีลนี้จะทำให้บางจากมีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรล/วัน

3.คลังน้ำมันสำรองเพิ่มอีก ราว15 ล้านบาร์เรล เกิดความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย

4.ความสามารถในการมีรายได้เพิ่มขึ้นระดับ 1,500-2,000 ล้านบาททันที

5.ประชาชนได้ประโยชน์เข้าถึงสถานีบริการที่ครอบคลุม ให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ได้น้ำมันที่มีคุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล


จะเห็นได้ว่าศักยภาพของบางจากจะแข็งแกร่งขึ้นสามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายยิ่งขึ้นพร้อมขึ้นแท่นเบอร์ 2 ของธุรกิจที่มีจำนวนสถานีน้ำมันมากสุดในประเทศไทย มีมาร์เก็ตแชร์ปั๊มน้ำมันเป็น 25%  

 

สำรวจความพร้อมทางการเงินบางจาก ปิดดีลใหญ่เร็วสุด ส.ค.66 

สำหรับกระบวนการซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้น ทางบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าได้ปิดดีลซื้อกิจการ ของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. หรือ เอ็กซอนโมบิล โดยที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 1/2566 วันที่ 11 ม.ค.66 มีมติเอกฉันท์อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของเอสโซ่จาก ExxonMobil

  • สำหรับราคาหุ้นกำหนดราคา   8.84 บาทต่อ 1 หุ้น ซึ่งมีการคิดมาจากมูลค่ากิจการของเอสโซ่นำไปลบด้วยหนี้ จึงออกมาเป็นราคา 8.84 บาทถือเป็นราคาที่เหมาะสมในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ระยะเวลาในการชำระค่าหุ้นอย่างเร็วจะเสร็จสิ้นราว สิงหาคม หรืออย่างช้าคือปลายปี 2566  ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับงบการเงินในช่วงเวลานั้นด้วย หากในช่วงเวลานั้นเอสโซ่มีหนี้เพิ่ม ราคาหุ้นจะลดลง แต่ถ้าหนี้ลดลง ราคาหุ้นก็จะเพิ่ม ซึ่งกระบวนการต่อรองราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกันต้องมีการสรุปกันอีกครั้ง

  • สำหรับเม็ดเงินที่บางจากจะใช้ซื้อหุ้นเอสโซ่ หากรวมกับการทำ Tender Offer อยู่ที่ประมาณ 30,608 ล้านบาท   แต่มูลค่ากิจการของ เอสโซ่ 55,000 ล้านบาท

  • บางจาก ยืนยันมีความพร้อมทางการเงินในการซื้อหุ้นเอสโซ่ เพราะสถานะทางการเงินมีเงินสดในมือราว 40,000  ล้านบาท และมีวงเงินกู้ที่ไดรับอนุมัติจากสถาบันการเงินแล้วพร้อมแล้ว ดังนั้น จากนี้ต้องมาบริการจัดการอีกครั้ง แม้หากตัดสินใจใช้วงเงินกู้ทั้งหมด หนี้สินต่อทุนของบางจากก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มเป็นจากเดิม 0.6 เท่าเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า ซึ่งมองว่าหากต่ำกว่า2 เท่ายังไม่มีอะไรตึงตัว คาดว่าจะชำระหนี้คืนได้ประมาณ 2.2 ปี


สำหรับในธุรกิจพลังงานของประเทศไทยจากนี้ไปก็คงจะได้เห็น บทบาทของบางจาก โดดเด่นมากขึ้น เพราะเมื่อบางจากรวมเอสโซ่ได้ ก็เรียกว่า บางจากสามารถต่อยอดธุรกิจได้หลากหลายขึ้น เพราะหากเทียบเคียงกับโมเดลธุรกิจของบริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) ก็จะเห็นได้ว่าได้ไม่ได้มีแค่ปั้มน้ำมันเท่านั้น แต่ยังต่อยอดธุรกิจในหมวดไลฟ์สไตล์เข้าไปได้อีกด้วย ผสมผสานกับจุดแข็งของช่องทางสถานีบริการน้ำมันที่มี …. ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ หมวดอื่นๆอยู่ภายใต้บางจากก็เป็นไปได้  

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT