สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการมาเก๊าสั่งปิดบ่อนกาสิโนทั่วเกาะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีในวันนี้ (11 ก.ค.) เพื่อยับยั้งโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก ขณะที่มาตรการปิดบ่อนส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทกาสิโนปรับตัวลดลงไปตามๆกัน
บ่อนกาสิโนกว่า 30 แห่งและธุรกิจอื่นๆ บนเกาะมาเก๊าถูกสั่งปิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ขณะที่ประชาชนได้รับคำสั่งให้เก็บตัวอยู่บ้าน ยกเว้นเฉพาะผู้ที่เดินทางระยะใกล้ๆ เพื่อเข้ารับบริการที่จำเป็น ส่วนทางการมาเก๊าจะส่งตำรวจคอยเดินตรวจตราประชาชนที่ออกมานอกบ้าน ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษหนัก
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมากาสิโนหลายแห่งในมาเก๊าได้ปิดบริการไปแล้ว แต่อนุญาตให้มีพนักงานเข้าไปทำงานได้ในจำนวนจำกัด แต่มาตรการล่าสุดที่สั่งปิดต่อนี้ยิ่งส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่ารายได้จากธุรกิจกาสิโนมาเก๊าจะยังไม่ฟื้นตัวจนถึงสิ้นไตรมาส 3 หรือย่างเข้าสู่ไตรมาส 4 ของปีนี้
ด้านราคาหุ้นของบริษัทกาสิโน อย่าง Sands China ปรับตัวลงแรง 9% , Melco International, Wynn Macau, SJM Holdings, Galaxy Macau และ MGM China ลดลงเช่นกันตั้งแต่ 6-7%
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมประมาณ 1,500 คนตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย. เป็นต้นมา และมีประชาชนที่เข้าสู่กระบวนการกักกันโรคประมาณ 19,000 คน เนื่องจากฝ่ายบริหารยึดแนวทางคุมโควิดเป็นศูนย์ตามคำสั่งของรัฐบาลจีน
นอกจากการปิดกาสิโน ห้ามประชาชนออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็นแล้วมาเก๊ายังประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงสูงกว่า 30 โซน โดยไม่อนุญาตให้มีการเข้า-ออกพื้นที่อย่างน้อย 5 วัน
สำหรับมาเก๊า มีรายได้หลักจากกาสิโนและการท่องเที่ยวที่ผ่านมาเคยปิดกาสิโนเป็นเวลา 15 วันเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2020 โดยจากนั้นมาทางการลังเลที่จะกลับไปใช้มาตรการปิดกาสิโนอีก เพราะธุรกิจกาสิโนช่วยกระตุ้นการจ้างงานให้กับประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งยังเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐมากกว่า 80% อีกด้วย
มีรายงานว่า ชาวมาเก๊าจำนวนมากเริ่มไม่พอใจวิธีจัดการโควิด-19 ของภาครัฐ และมีรายงานว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทตามศูนย์ตรวจโควิดหลายแห่ง เนื่องจากประชาชนบางคนต้องเสียเวลาเข้าคิวรอนานกว่า 20 ชั่วโมง ส่วนประชากรมาเก๊า 600,000 คนฉีดวัคซีนครบเกินกว่า 90% และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เมืองกาสิโนแห่งนี้เผชิญกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน