เปิดใจซีอีโอ YouTube คุมเข้มลูกใช้โซเชียล เผยผู้นำเทคหลายคนก็ทำ
นีล โมฮัน (Neal Mohan) ซีอีโอคนปัจจุบันของ YouTube และเพิ่งได้รับตำแหน่ง CEO แห่งปี 2025 จากนิตยสาร TIME ได้ออกมาเปิดเผยผ่านนิตยสารดังกล่าวถึงแนวทางการดูแลการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของลูก ๆ ทั้งสามคนของเขา ซึ่งสอดคล้องกับบรรดาผู้นำในวงการเทคโนโลยีคนอื่น ๆ ที่ตระหนักถึงภัยของการใช้อินเทอร์เน็ตในกลุ่มเยาวชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในบทสัมภาษณ์ โมฮันเปิดเผยอย่างสนุกสนานและเรียบง่ายว่าครอบครัวของเขาจำกัดเวลาที่ลูก ๆ ดู YouTube และใช้งานแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยค่อนข้างจะเคร่งครัดในวันธรรมดา แต่ก็ผ่อนปรนมากขึ้นในวันหยุด อย่างไรก็ตาม โมฮันกล่าวว่านี่อาจไม่ใช่แนวทางที่สมบูรณ์แบบหรือดีที่สุด แต่ทุกอย่างควรอยู่บนหลักการทางสายกลาง
โมฮันยืนยันว่าเขารู้สึกว่าตนมีความรับผิดชอบสูงสุดต่อเยาวชน และต้องการให้ผู้ปกครองควบคุมการใช้งานแพลตฟอร์มของลูก ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของผู้นำเทคคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซูซาน โวจิกกี้ (Susan Wojcicki) อดีตซีอีโอของ YouTube ที่จำกัดเวลาการใช้งานและให้ลูกใช้เฉพาะแอป YouTube Kids เท่านั้น
บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft เคยออกมาเปิดเผยว่าเขาไม่ให้ลูก ๆ ใช้โทรศัพท์มือถือจนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่น หรือประมาณอายุ 14 ปี และยังห้ามลูก ๆ ใช้โทรศัพท์ขณะทานอาหารอีกด้วย
ทางด้าน มาร์ก คิวบัน (Mark Cuban) มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและหนึ่งในนักลงทุนของรายการ Shark Tank กล่าวว่าเขาติดตั้งอุปกรณ์พิเศษและใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ เพื่อสอดส่องว่าลูก ๆ ใช้แอปอะไรบ้าง รวมถึงสามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์ของพวกเขาได้ในกรณีที่จำเป็น
ความกังวลเรื่องผลกระทบจากการใช้งานสมาร์ตโฟนและโซเชียลมีเดียที่มากเกินไปของเด็กและเยาวชนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยศาสตราจารย์โจนาธาน ไฮดท์ (Jonathan Haidt) จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และผู้เขียนหนังสือ “The Anxious Generation” ออกมาสนับสนุนให้เด็ก ๆ ไม่ควรมีสมาร์ตโฟนไว้ใช้งานก่อนอายุ 14 ปี และไม่ควรเข้าถึงโซเชียลมีเดียก่อนอายุ 16 ปี
ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียเพิ่งก้าวขึ้นเป็นประเทศแรกที่สั่งห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าถึงโซเชียลมีเดีย โดยตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 กฎหมายของแดนจิงโจ้กำหนดให้แพลตฟอร์มผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย ประกอบด้วย Facebook,Instagram, TikTok, Kick, Reddit, Snapchat, Threads, Twitch, X (Twitter) และ YouTube ต้องดำเนินวิธีการอย่างสมเหตุสมผล อาทิ ลบหรือยุติการใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีใช้งาน
ทั้งนี้ กฎหมายระบุให้มี eSafety Commissioner ที่คอยตรวจสอบและกำกับดูแล หากบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีไม่ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงของผู้ใช้งานที่อายุน้อยจะต้องมีโทษปรับสูงสุดถึง 50 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 1,040 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการต่อต้านบ้าง แต่ผลสำรวจก่อนหน้านี้พบว่าชาวออสเตรเลียถึง 77% สนับสนุนกฎหมายนี้
อ้างอิง: CNBC
