รู้แล้ว 'แจ๊ค หม่า' หายไปไหน? สื่อชี้กบดานอยู่ที่ 'ญี่ปุ่น'
เป็นเวลานานถึง 2 ปีมาแล้ว ที่โลกไม่ได้เห็นหน้าและข่าวคราวของ "แจ๊ค หม่า" มหาเศรษฐีจีนผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีคอมเมิร์ซ Alibaba (บริษัทแม่ของ Lazada)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากนักธุรกิจที่เป็นตัวตึงที่สุดในจีน ว่ากันว่าทั่วโลกรู้จักเขามากกว่ารู้จักนายกรัฐมนตรีจีนเสียอีก แต่เพราะ "พลาด" หลุดปากวิจารณ์แบงก์ชาติจีนว่าแนวคิดล้าหลังเหมือน "โรงตึ๊ง" (โรงรับจำนำ) ในงานประชุมเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2020 หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตของแจ๊ค หม่า ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล
- บริษัท Alibaba ถูกรัฐบาลจีนลงโทษปรับเป็นเงินถึง 2,750 ล้านดอลลาร์ (9.7 หมื่นล้านบาท) ฐานผูกขาดตลาด
- Ant Group ซึ่งเป็นบริษัทการเงินในเครือ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ทำให้พลาดโอกาสที่จะระดมทุนครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท)
- มูลค่าตลาดของ Alibaba หายวับไปถึง 3.44 แสนล้านดอลลาร์ ในรอบ 1 ปี
ที่สำคัญก็คือ ตัวของแจ๊ค หม่า เองซึ่งถือเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงมากที่สุดในเวทีโลก ก็หายไปจากการรับรู้ของสื่อด้วย!
แต่ล่าสุดในวันนี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส (Financial Times) ได้รายงานข่าวคราวของแจ๊ค หม่า ให้โลกได้รู้ว่าเขาไม่ได้หายหรือถูกอุ้มหายไปไหน แต่เขาเก็บตัวกบดานอยู่ที่ "ญี่ปุ่น" เป็นหลัก และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นแบบ Long stay มานานถึงเกือบครึ่งปีแล้ว
แจ๊ค หม่า ใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอย่างไร
ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานอ้างแหล่งข่าวจำนวนหนึ่งที่รู้ความเป็นอยู่ของหม่าโดยตรงว่า อดีตประธานและซีอีโอรายนี้ใช้ชีวิตแบบ "เศรษฐีทั่วไป" ในญี่ปุ่น
อดีตมหาเศรษฐีอันดับ 1 ในจีน ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในกรุงโตเกียว โดยพาเชฟส่วนตัว และทีมบอดี้การ์ดมาอยู่ด้วย เขามักจะเลี่ยงออกงานสาธารณะให้น้อยที่สุด และหาเวลาไปทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งแช่ออนเซ็น และไปเที่ยวสกีรีสอร์ตแถบรอบนอกกรุงโตเกียวอยู่บ่อยครั้ง และว่างๆ ก็บินไปเที่ยวสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลอยู่เป็นประจำ
กิจกรรมทางสังคมที่แจ๊ค หม่า มักจะเข้าร่วมก็คือ ไปคลับที่มีเฉพาะสมาชิกวีไอพีแค่หยิบมือ ไม่รับคนนอก ซึ่งคลับแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในย่านกินซ่า ย่านหรูใจกลางกรุงโตเกียว มีชื่อเสียงในหมู่นักธุรกิจชั้นนำชาวจีนที่อยู่ในญี่ปุ่นหรือไปมาหาสู่ญี่ปุ่นบ่อยๆ และคลับอีกแหนึ่งตั้งอยู่ในย่านการเงิน มารุโนอุชิ ใกล้กับพระราชวังอิมพีเรียล
นอกจากนี้ หม่ายังหันไปเป็น "นักสะสมงานศิลปะ" อีกด้วย โดยเพื่อนฝูงที่ใกล้ชิดเปิดเผยว่า หลังจากที่หม่าถูกบีบทางอ้อมให้ต้องวางมือจากธุรกิจ ความที่เขาเคยทำงานอย่างหนักและต้องประชุมพบปะผู้คนตลอดเวลา ทำให้เขาไม่ชินกับเวลาวาง และหันไปสงบจิตใจด้วยการวาดภาพสีน้ำแทน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอีกส่วนหนึ่งบอกว่า หม่าไม่ได้วางมืออย่างสิ้นเชิง แต่ใช้จังหวะที่พักร้อนยาวในญี่ปุ่นหาช่องทางขยายธุกิจ ให้นอกเหนือไปจาก Alibaba และ Ant Group โดยเฉพาะการขยายความสนใจทางธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน
เจอแจ๊ค หม่า ได้ทุกที่ยกเว้นที่ "จีน"
ภายหลังจากเหตุการณ์หักหน้าและนำไปสู่การยกเครื่องคุมเข้มภาคธุรกิจเทคโนโลยีในจีน จีนก็ยังมาเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในเวลาต่อมา พร้อมการใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มทั่วประเทศเพื่อคุมโควิดเป็นศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำหรือเป็นมหาเศรษฐี ทุกคนก็ต้องอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์เข้มงวดเหมือนกันหมด นั่นจึงทำให้แจ๊ค หม่า เลือกที่ไปพำนักระยะยาวในญี่ปุ่น หรือบินไปมาประเทศต่างๆ มากกว่าจะถูกล็อกดาวน์อยู่ที่บ้านในหังโจว
ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยว่าหม่าอยู่ในญี่ปุ่น เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ก็เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า หม่าเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในยุโรปอย่าง สเปนและเนเธอร์แลนด์ หลายคนพบเห็นแจ็ค หม่า ในหลายที่ เช่น เกาะมายอร์กา ของสเปน เมื่อปีที่แล้ว
มีรายงานด้วยว่า เขาสนใจเรื่องการเกษตรพอเพียงแนวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก โดยมีการไปดูงานและแปลงเกษตรตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในยุโรป เพื่อเอากลับมาพัฒนาในจีนต่อไป
