Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ดรามาไม่มีพัก เปิดประวัติ “ก้องศักด” ผู้ว่าฯ กกท. หัวเรือซีเกมส์ 2025

ดรามาไม่มีพัก เปิดประวัติ “ก้องศักด” ผู้ว่าฯ กกท. หัวเรือซีเกมส์ 2025

11 ธ.ค. 68
13:26 น.
แชร์

วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเรื่องราวชีวิตของผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย คนที่ 13 หัวเรือใหญ่ของการจัดงานซีเกมส์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์และดรามาร้อนที่ผุดขึ้นมาไม่เว้นวัน ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้คุมงานระดับช้างนี้ เส้นทางของเขาเป็นมาอย่างไร

นายก้องศักด ยอดมณี เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2515 เป็นลูกชายของ ดร.สุวิทย์ ยอดมณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับคุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี ซึ่งเป็นลูกสาวของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ ดร.ก้องศักด มีศักดิ์เป็น หลานชายแท้ ๆ ของจอมพลถนอม

เขาจบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนจิตรลดา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านกฎหมายพาณิชย์ ที่มหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ ก่อนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาการจัดการกีฬา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำให้เขามีความรู้ทั้งในด้านกฎหมาย การบริหาร และการจัดการกีฬา

นายก้องศักดเริ่มต้นเส้นทางการทำงานในสายกฎหมาย โดยเคยเป็นนักกฎหมายและเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้านิติกรหรือผู้บริหารฝ่ายกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2550

ก่อนจะก้าวเข้าสู่แวดวงการเมือง ด้วยการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยุคนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย

การมีประสบการณ์ทั้งภาครัฐและเอกชน และเคยสัมผัสงานด้านกีฬาทั้งการเป็นกรรมการสโมสรฟุตบอลราชนาวี และการดูแลงานด้านกีฬาของ กทม. ทำให้เขาถูกเลือกให้เป็นผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คนที่ 13 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ด้วยวัย 45 ปี

แม้จะถูกจับตามองว่า ยังขาดประสบการณ์ตรงในวงการกีฬา แต่เขาก็เข้ามาพร้อมคำมั่นที่จะปฏิรูปองค์กรให้มีมาตรฐานสากล เน้นความโปร่งใส และการทำงานเชิงรุก

ตลอดการดำรงตำแหน่ง นายก้องศักดต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง แม้ผลงานของทัพนักกีฬาไทยในภาพรวมจะน่าพอใจในหลายรายการ เช่น การคว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดงใน โอลิมปิกเกมส์ 2021 และการทำผลงานได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เวิลด์เกมส์ 2022

แต่ปัญหาภายในองค์กรที่เขาสัญญาว่าจะแก้ไขก็ยังคงปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะประเด็นความล่าช้าในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงและเงินสนับสนุนให้แก่นักกีฬาและสมาคมกีฬา ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

นอกจากนี้ เขายังต้องรับมือกับวิกฤตภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เช่น การต้องหาทางบริหารจัดการในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่งบประมาณจาก กสทช. ไม่เพียงพอต่อค่าลิขสิทธิ์ที่สูงถึง 1,600 ล้านบาท ซึ่งเขาต้องชี้แจงเหตุผลว่าไม่สามารถดึงเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ มาใช้ได้ทันทีเนื่องจากมีการจัดสรรงบประมาณไปแล้ว

และในกลางปี 2566 ก็ต้องพบเจอกับปัญหาความไม่พร้อมของสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่ทำให้ต้องยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลเกมอุ่นเครื่องระดับโลก ระหว่าง “เลสเตอร์ ซิตี้” กับ “ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส” ซึ่งนายก้องศักดได้ชี้แจงว่า รู้สึกเห็นใจแฟนบอล แต่ว่าสนามมีอายุการใช้งานกว่า 30 ปี และจำเป็นต้องมีการบูรณะครั้งใหญ่

 

ล่าสุด กับมรสุมดรามาการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 ที่เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดตั้งแต่ก่อนพิธีเปิดจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานที่สุดอย่างความพร้มของสนามแข่งขัน ไปจนถึงความโปร่งใสในการใช้งบประมาณแผ่นดิน

เริ่มต้นจากปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของนักกีฬาอย่างความล่าช้าในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงและเงินสนับสนุน ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากที่นักกีฬาต้องเผชิญมานาน และยิ่งทวีความรุนแรงจนมีนักกีฬาหลายคนออกมาประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน

เมื่อการแข่งขันบางประเภทเริ่มต้นขึ้น ความไม่พร้อมของสนามก็เป็นดรามาที่ตามมาติด ๆ โดยเฉพาะที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งพบความผิดพลาดทางเทคนิคในการแข่งขันฟุตบอล ตั้งแต่ระบบลำโพงไม่ดังจนทำให้นักกีฬาของ สปป.ลาว และเวียดนามต้องยืนร้องเพลงชาติกันเองอย่างทุลักทุเล

นอกจากนี้ยังมีการรายงานปัญหาไฟในสนามดับเป็นจุด ๆ ห้องน้ำสกปรกไม่พร้อมใช้งาน ไปจนถึงปัญหาเก้าอี้ล่องหน ที่แฟนกีฬาจองที่นั่งมาแล้ว กลับกลายเป็นบันไดโล่ง ๆ แม้สนามจะเพิ่งได้รับงบปรับปรุงไปหลายพันล้าน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย 

รวมถึงมีความผิดพลาดในงานประชาสัมพันธ์และการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตโดยใช้ภาพกราฟิกจาก AI ที่มีข้อบกพร่องเต็มไปหมด จนถูกมองว่าเป็นการทำงานที่มักง่ายและไม่สมกับงานระดับนานาชาติ รวมถึงความผิดพลาดในการขึ้นภาพกราฟิกธงชาติในโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลหญิงที่สลับสับเปลี่ยนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างไม่น่าให้อภัย

ยังมีดรามาเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณและความโปร่งใส เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตถึงการ ติดตั้งป้ายโลโก้ผู้สนับสนุนขนาดใหญ่เกินควรบริเวณกระถางคบเพลิง จนบดบังชื่อของมหกรรมกีฬา และประเด็นความล่าช้าในการออกบัตรประจำตัวสื่อมวลชน

และการทำงานที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนปกติ เช่น การให้เอกชนบางรายเข้ามารับงานติดตั้งอุปกรณ์สำหรับพิธีเปิดไปก่อนแล้ว ทั้งที่ยังไม่มีการประกาศราคากลางและการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้นำไปสู่คำถามที่ดังไปทั่วทั้งประเทศว่าประเทศไทยมีความพร้อมอย่างแท้จริงในการเป็นเจ้าภาพหรือไม่

นายก้องศักด ในฐานะผู้นำสูงสุดของฝ่ายจัดงาน ได้ออกมาชี้แจงทุกประเด็นว่าในกรณีที่ลำโพงไม่ดังนั้นเป็นเพียง ความผิดพลาดทางเทคนิค และได้ทำหนังสือขอโทษ สปป.ลาว และเวียดนามแล้ว ส่วนเรื่องไฟในสนามนั้น ยืนยันว่าได้แก้ไข และตรวจสอบแล้วว่าสว่างเพียงพอและเกินกว่ามาตรฐาน

สำหรับปัญหาเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา เขาชี้แจงว่าเป็นเรื่องของการสื่อสารระหว่างสมาคมฯ กับนักกีฬา และยอมรับว่าสาเหตุหลักคือการเพิ่มชนิดกีฬาที่ทำให้งบประมาณไม่พอ ซึ่งทาง กกท. ได้ขอเพิ่มงบประมาณแล้ว แต่กระทรวงการคลังไม่อนุมัติให้เพิ่มเงิน โดยให้รอการประชุมบอร์ดในปี 2569

พร้อมทั้งเปิดเผยว่า งบประมาณการจัดซีเกมส์ของไทย 2,000 กว่าล้านบาท น้อยกว่าของกัมพูชาที่ใช้ถึง 3,000 กว่าล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าปัญหาหลักจริง ๆ นั้น ไม่ใช่ปัญหาของซีเกมส์ แต่เป็นปัญหาของวงการกีฬาไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ในประเด็นด้านภาพลักษณ์เรื่องป้ายสปอนเซอร์ขนาดใหญ่ที่คบเพลิง นายก้องศักด ยอมรับว่าเขาเองก็ไม่ชอบ และได้ สั่งการให้เปลี่ยนเป็นโลโก้ซีเกมส์และมาสคอตแล้ว

ส่วนเรื่องความไม่โปร่งใสของการจ้างงานก่อนเซ็นสัญญานั้น เขาระบุว่าเป็นการทำงานที่ทุกฝ่ายทราบดีว่ายังไม่มีสัญญา แต่ปัญหาใหญ่ที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการบริหารงานทั้งหมด คือความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ส่งผลให้มีการเปลี่ยนรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบหลายคน นโยบายเปลี่ยน การทำงานของผู้ปฏิบัติก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย

และล่าสุด ในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เมื่อถึงวันพิธีเปิดที่คนทั้งประเทศจับตาดู เหตุการณ์กลับกลายเป็นน้ำมันที่สาดเข้าใส่กองไฟดรามาที่คุกรุ่นอยู่แล้ว ผู้ชมทั้งในสนามและทางหน้าจอต่างเห็นตรงกันว่า พิธีเปิดปีนี้ “ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่สมศักดิ์ศรีซีเกมส์” รายละเอียดหลายอย่างสะท้อนความสะดุดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นขบวนพาเหรดนักกีฬาที่มุมกล้องไม่ดี ตากล้องวิ่งตัดเฟรมจนภาพไม่น่าชม การใช้สถานที่ขนาดใหญ่แต่กลับจัดพื้นที่แสดงน้อยจนดูไม่สวยงาม การแสดงระบำใต้น้ำที่ไม่พร้อมทั้งเสื้อผ้า หน้าผม และมุมภาพโชว์

โชว์ที่ต้องอลังการกลับมีข้อผิดพลาดให้เห็นชัดเจน ทั้งไฟส่องสว่างไม่ทั่วถึงจนทำให้สนามบางช่วงมืดผิดสังเกต การแสดงโดรนแปรอักษรที่ระบุจำนวนเหรียญทองผิด ธงชาติในวิดีโอขึ้นผิดประเทศ ขึ้ เสียงร้องเพลงธีมหลักของการแข่งขัน และโชว์ต่าง ๆ มีจังหวะเพี้ยนอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงข้อสงสัยสำคัญที่ชาวเน็ตตั้งคำถามว่า พิธีเปิดครั้งนี้อาจเกิดจากการต้อง “เปลี่ยนทีมออร์แกไนซ์กะทันหัน” ทำให้เวลาจัดการน้อยเกินไป ขณะที่อีกฝ่ายโต้กลับว่า ด้วยงบหลักร้อยล้าน ไม่ว่าทีมจะได้เวลาเท่าไร ก็ต้องทำให้ออกมาสมศักดิ์ศรีระดับนานาชาติ

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเริ่มงานจนถึงพิธีเปิดที่ไม่จบไม่สิ้นนี้ ได้สร้างความคลางแคลงใจให้กับสาธารณชน หลายคนคาดเดาสาเหตุว่า อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนออแกไนซ์กะทันหัน ทำให้มีเวลาจัดการทำได้ไม่เต็มที่ และอาจเป็นการทำงานที่ดีที่สุดแล้วในเวลาอันสั้น แต่ก็มีความเห็นอีกฝั่งคือ ด้วยงบประมาณหลักร้อยล้านที่ได้รับควรจัดการให้ดีกว่านี้ แม้เวลาเตรียมงานจะสั้น แต่เมื่อเลือกที่จะรับงานแล้วก็ควรทำให้ดีให้สมกับงบที่ได้รับ

แม้ว่าตอนนี้มหกรรมกีฬาระดับภูมิภาคอย่างซีเกมส์ 2025 จะได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว แต่การแข่งขันที่แท้จริงไม่ได้มีเพียงในสนามเท่านั้น ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่ากำลังรออยู่เบื้องหน้า นั่นคือการบริหารจัดการงานที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังเผชิญกับคลื่นดรามาทั้งหลาย

นี่จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ฝีมือครั้งสำคัญที่สุดบนเส้นทางผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยของนายก้องศักด ยอดมณี ว่าจะสามารถนำพาองค์กรและมหกรรมกีฬาครั้งนี้ให้ก้าวข้ามทุกปัญหาไปได้สำเร็จ และสามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นของคนทั้งประเทศที่กำลังจับตามองอยู่ได้หรือไม่

ก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไป พร้อม ๆ กับการส่งแรงใจแรงเชียร์ให้กับทัพนักกีฬาไทยที่ลงสนามเพื่อชิงชัยในครั้งนี้กัน

 

Advertisement

แชร์
ดรามาไม่มีพัก เปิดประวัติ “ก้องศักด” ผู้ว่าฯ กกท. หัวเรือซีเกมส์ 2025