
สถานการณ์ล่าสุดที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญ “สมรภูมิเนิน 350” คืนนี้ ยังได้ยินเสียงการปะทะกันที่หน้าแนวปราสาทเป็นระยะๆ แต่ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ทหารไทยก็ได้มีการยิงปืนใหญ่สนับสนุนไปที่หน้าแนวอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วงเย็นที่ผ่านมา
ขณะที่วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่จากการลงพื้นที่ของทีมข่าว ไม่ได้เสียง BM-21 ของกัมพูชาโจมตีเข้ามาทางฝั่งไทย
เราได้พูดคุยกับนายเพิ่มอังคาร ตินาพบ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ บอกว่า ความเงียบของเสียงอาวุธหนักของทางฝั่งกัมพูชา ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่สุด เพราะที่สมรภูมิเนิน 350 เป็นไปได้ว่าทางฝั่งกัมพูชาเตรียมใช้กลยุทธ์แบบกองโจรในการซุ่มโจมตีทหารไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลานี้ที่ทหารไทยพยายามบุกเข้าไปนำร่างของวีรบุรุษ 2 นาย ออกจากพื้นที่ ซึ่งก็ทราบว่า กัมพูชาพยายามใช้เป็นหมายในการซุ่มโจมตี ทำให้ทหารไทยปฏิบัติภารกิจอย่างยากลำบาก นี่จึงอาจเป็นที่ทำไม 2 วันที่ผ่านมา กัมพูชาจึงไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธหนัก และจะได้ยินเพียงเสียงปืนของทหารไทย ที่ยิงสนับสนุนไปที่แนวหน้า เท่านั้น
ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ทหารกัมพูชา กำลังใช้วิธีรบแบบกองโจร หลอกล่อให้ทหารไทยเข้าไปติดกับแล้วยิงถล่ม เพราะย้อนกลับไปในอดีต กัมพูชาก็เคยใช้วิธีการแบบนี้ เคยแม้กระทั่งนำระเบิดซุกไว้ใต้ร่างผู้เสียชีวิต แล้วพอจะไปนำร่างออกมา ก็เกิดระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
ผู้ใหญ่บ้าน เชื่อว่า ทหารไทยจะสามารถเผด็จศึกที่เนิน 350 ได้แน่นอน และน่าจะไม่ยืดเยื้อ หากมีการตัดเสบียง ตัดเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อถึงเวลานั้น กัมพูชาอาจหันปากกระบอกปืนใส่พวกเดียวกันเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยเขมรแดง
สำหรับในพื้นที่คืนนี้ ยังมีการคุมเข้มแบบ 100% และเมื่อสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ยืดเยื้อออกไป ทางการก็ยิ่งมีการกำชับให้เฝ้าระวังเรื่องสายลับ หรือ บุคคลแปลกหน้าที่อาจแฝงตัวมาหาข้อมูลพิกัดทางทหาร โดยผู้นำชุมชนและชรบ. ต้องช่วยกันตรวจตราทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะบุคคลเหล่านี้ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง
Advertisement