
สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดตรวจสอบน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนฯที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำเหนือเริ่มกลับมามีปริมาณเพิ่มขึ้น จากฝนที่ตกหนักทางตอนบนของประเทศ ล่าสุดวัดได้ 2,500 ลบ.ม./วิ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น 32 ซ.ม. ในรอบ 24 ชม. วัดได้ 16.92 ม.รทก. โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนจากเดิม 2,000 ลบ.ม./วิ ขึ้นไปที่อัตรา 2,100 ลบ.ม./วิ เพื่อรับมือกับฝนที่จะเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรง และพายุคัลแมกี ซึ่งล่าสุดระดับน้ำท้ายยกตัวขึ้น 31 ซ.ม. ในรอบ 42 ชม. วัดได้ 14.99 ม.รทก. และจะมีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10-30 ซ.ม. ใน 24 ชม. ข้างหน้า
โดยพื้นที่ ต.โพนางดำ ออก อ.สรรพยา ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ถูกน้ำท่วมขังจากพนังกั้นน้ำหน้าวัดสมอ ม.3 แตกมานาน 27 วัน ล่าสุดพบว่ายังมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขังกว่า 350 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 20-100 ซ.ม. ชาวบ้านบางส่วนยังต้องขึ้นมาอยู่บนถนนคันคลองมหาราช ทำให้ปัจจุบันยังต้องเจออุปสรรคเรื่องระดับน้ำที่ยังสูงและน้ำเน่าเสีย ซึ่งล่าสุดเทศบาลตำบลโพนางดำออกได้เร่งนำเครื่องสูบน้ำท่อพญานาคซิ่ง จำนวน 10 เครื่อง มาระดมสูบน้ำออกจากแอ่งกระทะพื้นที่ ม.2 เพื่อให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านได้ แต่ก็ยังต้องมีปัญหากังวลกับปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มขึ้นในระยะ 1 สัปดาห์หลังจากนี้่ จากอิทธิพลของพายุคัลแมกีที่จะทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวขึ้น และอาจจะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เพิ่มขึ้นได้อีก
ขณะที่ภาพรวมล่าสุดที่จุดอพยพหนีน้ำท่วมทางหลวงชนบทชัยนาท 3018 คันคลองมหาราช ยังมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบลท้ายเขื่อน คือ ต.ตะหลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก อพยพหนีน้ำขึ้นมาสร้างเพิงพักชั่วคราวอยู่บนถนนนานกว่า 1 เดือน ที่แม้บางส่วนจะเริ่มกลับเข้าบ้าน แต่ยังมีที่ต้องนอนบนถนนต่อไปจำนวนประมาณกว่า 350 ครอบครัว
ข้อมูลจาก ปภ.จังหวัดชัยนาท เปิดเผย ว่า จ.ชัยนาท มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ คือ อ.สรรพยา ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจำนวน 5 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1,759 ครัวเรือน มีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น 4,750 คน
Advertisement