แรงงานต่างด้าวมากกว่า 5 ล้านคน จาก 4 สัญชาติหลัก ได้แก่ เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และ สปป.ลาว ถือเป็นกำลังที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในแทบทุกภาคส่วน ทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการ พวกเขาคือแรงงานที่ช่วยเติมเต็มตลาดแรงงานไทย
ถึงแม้แรงงานต่างด้าวจะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ แต่ภาครัฐยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการบริหารจัดการ โดยเฉพาะข้อมูลสุขภาพและสิทธิ์การรักษาพยาบาลของแรงงานเหล่านี้ เนื่องจากยังมีแรงงานกว่า “หนึ่งล้านคน” ที่ยังไม่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพ
หลายคนไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนที่ถูกต้อง และบางกรณียังพบการสวมสิทธิ์หรือปลอมแปลงข้อมูล ส่งผลให้รัฐต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขจำนวนมาก โดยไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างชัดเจน
กรมควบคุมโรคพัฒนา “ระบบไบโอเมตริกซ์”
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว “กรมควบคุมโรค” ได้พัฒนา “ระบบไบโอเมตริกซ์” (Biometric System) หรือเทคโนโลยีชีวมิติที่สามารถระบุตัวตนแรงงานต่างด้าวได้อย่างแม่นยำ ผ่านการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า ภายใต้ชื่อระบบ “TRCBAS” (Thai Red Cross Biometric Authentication System) ซึ่งดำเนินการร่วมกับ สภากาชาดไทย
จุดประสงค์หลักของระบบนี้ คือการยืนยันตัวบุคคลก่อนเข้ารับบริการด้านสุขภาพ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการ
เชื่อมโยงข้อมูลสาธารณสุขแบบเรียลไทม์
ข้อมูลจากระบบ TRCBAS จะถูกเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลกลางของกรมควบคุมโรค หรือ Disease Control Data Hub เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและเฝ้าระวังโรคได้แบบ เรียลไทม์ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีแรงงานเคลื่อนย้ายจำนวนมาก หากเกิดการระบาดของโรค เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบต้นตอและควบคุมการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิม
บูรณาการข้อมูลจาก 3 แหล่งสำคัญ
ระบบนี้ยังผสานข้อมูลจาก 3 แหล่งหลัก ได้แก่
• การรายงานตรงจากอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.)
• การคัดกรองเชิงรุกในชุมชน
• ระบบรายงานโรคของสถานพยาบาล (DDS/HDC)
การบูรณาการข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลสุขภาพของแรงงานต่างด้าวมีความ ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ซ้ำซ้อน
อย่างไรก็ตามการนำเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์มาใช้ในระบบสาธารณสุข จึงไม่เพียงเป็นการ “จัดระเบียบข้อมูล” เท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศในระยะยาว เพราะสุดท้ายแล้ว สุขภาพของแรงงานต่างด้าวก็คือส่วนหนึ่งของสุขภาพคนไทยเช่นกัน
Advertisement