วันที่ 19 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่คืนวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบวงกว้างในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่
ในขณะที่อำเภอหล่มสักเวลา 06.30 น. เกิดดินสไลด์บนทางหลวงหมายเลข 12 สายหล่มสัก–ชุมแพ ช่วงเลยสะพานห้วยตอง ประมาณ 1 กิโลเมตร ดินและหินจากไหล่เขา ถล่มปิดเส้นทางทั้งสองช่องจราจร รถทุกชนิดสัญจรไม่ได้ แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 ระดมเครื่องจักรเข้าเคลียร์กระทั่งเวลาราว 08.20 น .เจ้าหน้าที่ฯจึงเปิดทางได้ 1 ช่องทางจราจรให้เดินรถแบบทางเดียว
นอกจากนี้ยังมีน้ำป่าจากเขาน้ำหนาวไหลทะลักเข้าท่วมตำบลปากช่อง อ.หล่มสัก ส่งผลให้มวลน้ำที่ไหลหลากลงมาตามลำห้วยปากดุก มีปริมาณมากและไหลเชี่ยวเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน และเส้นทางสัญจรจนทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่1,2,10,14และ15 กว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นวงกว้าง
ขณะเดียวกันมีสะพานและฝายหลายแห่งได้รับผลกระทบได้แก่สะพานห้วยน้ำดุกหมู่14และ15,ฝายห้วยน้ำดุกหมู่10และหมู่1,ถนนสายปากช่อง–บ้านกลางหมู่14 รวมถึงสะพานเชื่อมหมู่2–หมู่4
โดยเฉพาะคอสะพานข้ามคลองหมู่ 2 ถูกน้ำกัดเซาะซ้ำเป็นรอบที่รอบส่งให้คอสะพาน ซึ่งก่อนนี้ชำรุดบางส่วนได้ขาดสะบั้นลง ทำให้ชาวบ้านต้องเลี่ยงใช้เส้นทางสำรองเข้าออกหมู่บ้าน ชาวบ้านแจ้งว่ามวลน้ำก้อนนี้ถือว่ามีปริมาณมากที่สุดในรอบ 10 ปี และพบน้ำยังพัดพาโคลนเลนและเศษไม้กิ่งไม้ไหลลงมาปิดกั้นทางน้ำ โชคดีที่ก่อนหน้านี้มีการขุดลอกห้วยน้ำดุกทำให้ช่วยระบายน้ำได้สะดวก จนระดับน้ำลดลงภายในช่วงเที่ยงวัน
ล่าสุดทางอบต.ปากช่อง ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเพื่อเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนแล้ว
เช่นเดียวกับที่อำวิเชียรบุรี ก็ได้รับผลกระทบจากฝนหนักเช่นกันเวลาประมาณ 02.00 น.เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 2 ตำบล 4 หมู่บ้านบ้านเรือน 6 หลังถูกน้ำท่วมถนน 2 สายถูกตัดขาดจากน้ำท่วมขัง และอีก 1 สาย เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายและเตรียมซ่อมแซมเร่งด่วน
ด้านนายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดกำลังคนเครื่องมือและเครื่องจักรประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที หากเกิดเหตุฉุกเฉินพร้อมประชาสัมพันธ์เตือนครัวเรือนริมลำน้ำ และริมแม่น้ำป่าสัก ให้ยกของขึ้นที่สูงและติดตามประกาศแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด
Advertisement