วันที่ 21 ส.ค. 68 บรรยากาศทางเข้าบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ได้มีการนำตะแกรงเหล็กมาปิดทางเข้าออกและอนุญาตให้เฉพาะชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เข้าไปได้เท่านั้น
ขณะที่นายลุย เที่ยงลาย อายุ 79 ชาวบ้านกุดผือ ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านหนองจาน และยังเป็นชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการถูกกัมพูชายึดที่ดินทำกินกว่า 77 ไร่ เปิดเผยว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ใช้ทำกินมาตั้งแต่สมัยพ่อตาแม่ยายและมีเอกสาร สค. 1 ยืนยันว่าที่ดินอยู่ฝั่งไทยแน่นอนหมื่นเปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากสมัยเขมรแดง เขมรได้เข้ามายึดที่ดินดังกล่าว ห้ามตนเข้าไปทำนาในพื้นที่ พร้อมกับเผากระท่อมกลางนาเพื่อขับไล่ ทำให้นับตั้งแต่นั้น ตนเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน
ยอมรับว่ารู้สึกโกรธมากที่ของเราทำกินไม่ได้แต่เขมรทำกินได้ และตนเคยร้องเรียนไปแล้วสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แต่ไม่สามารถช่วยได้
นอกจากนี้ยังกังวลว่าการที่กองทัพภาคที่ 1 นำรั้วลวดหนามมาล้อมโดยไม่หยึดหลักเขต กินพื้นที่เข้ามาที่ฝั่งไทยมากกว่าจนทำให้ไทยเสียพื้นที่มากขึ้น
นายลุย บอกด้วยว่าการที่ฝั่งเขมรมาชุมนุมบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน เป็นเขมรที่อพยพลี้ภัยมาและคิดพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเขมรทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่
พร้อมมองว่าการเจรจาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เนื่องจากฝั่งเขมรจะไม่ยอมรับ จึงอยากให้รบกันเลยคืนนี้เลยก็ได้ ตนไม่กลัวเพราะมองว่าปัญหาจะได้จบ
ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะนายใหญ่ในประเทศไทยไปลงทุนที่เขมรเยอะ ซึ่งคนเหล่านั้นเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่เดือดร้อน เพราะใช้ชาวบ้านเป็นที่กำบัง ขอฝากรัฐบาลดูชาวบ้านตาดำๆ ด้วย
พร้อมมองด้วยว่าปัญหาทุกอย่างจะจบหากฮุนเซนและฮุนมาเนตเสียชีวิต และจะทำให้แผ่นดินกัมพูชาสูงขึ้นด้วย และมองว่ารัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็ไม่มีความสามารถบริหารประเทศและแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน
Advertisement