Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทุกวินาทีคือชีวิต เบื้องหลังภารกิจนำส่งหัวใจ ต่อชีวิตคนรอ..ให้รอด

ทุกวินาทีคือชีวิต เบื้องหลังภารกิจนำส่งหัวใจ ต่อชีวิตคนรอ..ให้รอด

17 มิ.ย. 68
23:40 น.
แชร์

ทุกวินาทีคือชีวิต เรื่องราวจากคนที่อยู่เบื้องหลังภารกิจนำส่งหัวใจ ต่อชีวิตคนรอ...ให้รอด การทำงานที่ต้องยึดเวลาและความไวเป็นสิ่งสำคัญ

เพราะทุกวินาทีคือชีวิต สำหรับภารกิจนำส่งหัวใจ ที่ปรากฎบนหน้าสื่อหลายครั้ง ภายใต้เวลาอันจำกัดแต่สำคัญมากกับชีวิตคนที่รอ การทำงานของสองส่วนสำคัญนั่นก็คือทีมตำรวจโครงการพระราชดำริ นำทางรถพยาบาล และแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง

พ.ต.อ. จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผบก.จร รับผิดชอบโครงการพระราชดำริ เล่าถึงจุดเริ่มต้น ภารกิจนำส่งหัวใจ ภารกิจสุดหินแต่คือความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ประชาชน

เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากพอเราเป็นหน่วยบริการ เราได้รับการประสานจากโรงพยาบาล ผมคิดว่าทุกคนน่าจะรู้คร่าวๆ ว่าหนึ่งหัวใจที่ออกจากร่างผู้บริจาค จนถึงร่างผู้รับบริจาคมีแวลาแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น กับพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลในพื้นที่ที่อยู่กลางกรุงเทพมหานคร เราเลือกเวลาไม่ได้ เราไม่รู้ว่าผู้บริจาคท่านจะพร้อมตอนไหน ท่านจะพร้อมตอนชั่วโมงเร่งด่วนรถติดมากๆ หรือเปล่า นั่นแหละครับเป็นส่วนที่โรงพยาบาลขอความช่วยเหลือจากเรา ในการลดระยะเวลาการเดินทาง เพื่อเพิ่มระยะเวลาให้คุณหมอได้สามารถทำการผ่าตัดให้สมดังวัตถุประสงค์ของผู้ให้ และผู้รับสามารถมีอายุยืนต่อไปได้ อันนี้จึงเป็นที่มาของภารกิจนำส่งหัวใจ

พอโรงพยาบาลประสานมา เราก็จะประสานกันต่อว่าเส้นทางจากตรงนี้ไปตรงนี้ ต้องผ่านจุดไหนบ้าง เราก็จะจัดชุด คำนวณเส้นทางประสานท้องที่ว่าจะมีทีมผ่านไป เราจะไม่ใช้การปิดถนน เพราะมันจะไปกระทบกับพี่น้องประชาชน กระทบการจราจรอื่นๆ แต่เราจะใช้การตัดรถโดยรถจักรยานยนต์ของในทีม จะสังเกตว่าในไลฟ์เรา สมมติมีรถ 5 คัน คันหนึ่งนำ ลุยทาง คันที่ 2 3 4 จะประคองแล้วตัดขึ้นไปหนึ่ง สองขึ้นไปตาม เราจะสับฟันปลากันอยู่อย่างนี้ ซึ่งหลักการนี้ผมมองว่า ปลอดภัยทั้งตัวผู้ปฏิบัติ ภารกิจสำเร็จและปลอดภัย ไม่กระทบกระเทือนผู้ใช้ทางท่านอื่นด้วย

ทำไมไม่ใช้เฮลิคอปเตอร์?

เราอาจจะคิดว่าเฮลิคอปเตอร์อากาศยาน เร็วกว่ารถจักรยานยนต์ ผมตอบว่าเราไม่สามารถสตาร์ทเฮลิคอปเตอร์แล้วขึ้นได้ทันทีทันใดเหมือนรถจักรยานยนต์ครับ มันเป็นเรื่องของกฎการเดินทางทางอากาศ ที่จะต้องแจ้งศูนย์ แจ้งหอบังคับการ ห้วงอากาศ การจราจรทางอากาศ มันมีข้อกำหนดยิบย่อยอื่นๆ มากกว่าการใช้รถจักรยานยนต์ แล้วในส่วนของความเป็นห่วงเป็นใยจากพี่น้องประชาชนว่ารถจักรยานยนต์อันตรายนะ เนื้อหุ้มเหล็กอะไรต่างๆ พวกนี้ ผมเรียนอย่างนี้ครับว่าผมและทุกคนทราบดีว่ามันอันตราย แต่การที่เราอาสามาทำกิจกรรมนี้เราได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว ทั้งระดับพื้นฐาน แอนวานซ์ มีฝึกหมด แล้วทุกครั้งเราจะมีการประเมินสถานการณ์และรีเช็กอุปกรณ์ทั้งหมด ทั้งรถจักรยานยนต์ อุปกรณ์การสื่อสาร การประสานงาน ทุกอย่างมันต้องสมบูรณ์แบบ เราทำจนเป็นนิสัยปกติ แต่ก็ไม่ละเลยไม่ประมาทกับตรงนี้มากที่สุด มันก็เลยทำให้เรามั่นใจว่าเราจะใช้รถจักรยานยนต์ได้ดีกว่าออฟชั่นอื่นๆ ที่กล่าวมา

พร้อมปฏิบัติ ท่ามกลางความเสี่ยง

ตั้งแต่ตำรวจโครงการประราชดำริได้นำส่งหัวใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่านอื่นๆ เขาก็ทำมาเรื่อยๆ นะครับแต่อาจจะไม่มีใครรู้ ตัวผมเองเมื่อลงมาทำ ผมก็พยายามสร้างขวัญและกำลังใจให้พวกเขา มาขยายความให้สังคมรับรู้ว่ามันมีหน่วยงานนี้นะ มีตำรวจที่เขาบริการอย่างเดียว มีส่วนที่เขาเสียสละนะ ทุกการกระทำมันเสี่ยง อย่างผมเชื่อว่าแฟนเพจที่เห็นการขี่มอเตอร์ไซค์ การทำความเร็วของพวกเราหลายๆ ครั้ง ทุกท่านก็ร่วมอนุโมทนาสาธุ เป็นห่วง ขอให้ปลอดภัย นั่นแหละครับคือสิ่งที่มันเป็นกำลังใจให้พวกเราทำต่อไป เราอยากให้สังคมรับรู้ ได้มาดูได้มาเห็นว่าตำรวจหน่วยนี้เขาทำเขาช่วยอะไรบ้าง ได้รับรู้ว่าพวกเราทำกันอย่างนี้ พวกเราเสี่ยงนะ แต่เราอาสามาแล้ว เราทำด้วยใจ เราอยากทำบุญอยากช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือเราเป็นตำรวจโครงการพระราชดำริ ทำตามที่พระราชดำริที่พระองค์ท่านได้มีพระราชดำริไว้ครับ

พวกเราพร้อมปฏิบัติ พร้อมรับใช้ พร้อมบริการ อย่างที่บอกเราไม่มีใบสั่ง เราเป็นตำรวจบริการอย่างเดียว อันที่สองคือเป็นตัวแทน ต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่เป็นห่วงเป็นใยพวกเรา นั่นคือขวัญและกำลังใจในการทำงานของพวกเรา ในการออกไปเมื่อได้รับแจ้งรับการประสาน ถามว่าอันตรายไหม อันตราย ทุกคนมีครอบครัวไหม มี แต่ภารกิจและหน้าที่มันมาก่อน เมื่อเราเป็นตำรวจแล้วเราไม่ใช่อาชีพอื่น เราอาสามาเป็นตำรวจ และที่สำคัญอาสามาเป็นตำรวจโครงการมันต้องพร้อมอยู่แล้วอันนี้ต้องกราบขอบพระคุณ แล้วก็ขออนุญาตบอกว่าโครงการนี้เฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้นนะครับ เป็นตำรวจนครบาล ไม่ว่าจะโทร 191 1197 เราพร้อมที่จะปฏิบัติครับ อันนี้ต้องเรียนพี่น้องประชาชนเพื่อทราบ

คนที่ได้รับบริจาคหัวใจ ต้องมีอาการอย่างไร รศ.นพ. ปรัญญา สากิยลักษณ์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่าการเปลี่ยนหัวใจ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะทำก็ทำได้เลย ต้องเข้าเกณฑ์ที่เปลี่ยนได้และเป็นไปตามลำดับคิว ไม่มีการแบ่งแยกคนจน-คนรวย

รศ.นพ. ปรัญญา เล่าว่าผู้ที่ต้องการหัวใจใหม่เพราะหัวใจเก่ามันทำอะไรไม่ได้แล้ว ใช้ภาษาง่ายๆ คือเกินเยียวยา หัวใจใหม่ก็ต้องมีผู้บริจาค และผู้บริจาคหัวใจก็ต้องมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน สมมติผู้ชายอายุ น้ำหนัก 100 กิโลกรัม คนบริจาคน้ำหนัก 40 กิโลกรัม แบบนี้ใช้ไม่ได้ มันเล็กไป น้ำหนักส่วนสูงต้องใกล้เคียงกัน ไม่ต้องเป๊ะมากก็ได้เอาใกล้เคียงกัน กรุ๊ปเลือดเริ่มต้นที่กรุ๊ปเดียวกันก่อน แต่ถ้าไม่ได้ก็เป็นกรุ๊ปเลือดที่บริจาคด้วยกันได้

หัวใจดวงใหม่ ไม่ใช่ทุกคนจะได้

คนที่รอเปลี่ยนหัวใจ ยกตัวอย่างสมมติคุณสบายดีแล้วอยากเปลี่ยนหัวใจ อันนี้ไม่ได้ หรือผมอายุ 70 แต่อยากได้หัวใจ 20 แบบนี้ก็ไม่ได้ หรือเป็นโรคหัวใจล้มเหลว ตรวจแล้วมันไม่มีข้อห้าม อายุเยอะเกินไปก็ไม่ได้ มีมะเร็งซ่อนอยู่ก็ไม่ได้ กินยากดภูมิคุ้มกันก็อาจจะเกิดมะเร็ง มันจะมีบางคนที่สุดท้ายแล้วจะไม่ได้ เพราะข้อห้ามในบางข้อ หรือคนไข้อาจจะมีปัญหาเรื่องลืมกินยา ไม่เคยกินยา บางคนสัมภาษณ์ดูแล้ว ได้หัวใจคนบริจาคไปแล้ว ไม่รับผิดชอบตัวเอง เราก็ไม่ทำให้ครับ

มีหมอเป็นคนประเมินแล้วส่งชื่อไปที่กาชาด ซึ่งใครส่งก่อนก็ได้ก่อน เขาก็จะวนไปตามโรงพยาบาล แล้วจะมีกลุ่มที่ขอด่วน ด่วนนี่คือด่วนจริงนะ ถ้าไม่ทำภายใน 1 เดือนน่าจะเสียชีวิตได้ เคสด่วนก็จะมีประเภทให้ยาอยู่ หยุดยาไม่ได้ ต้องให้ยากระตุ้น หรืออาจใช้เครื่องพยุงอยู่ เคสพวกนี้คือด่วน

หัวใจด่วน จะได้เร็วขนาดไหน?

แล้วแต่ดวง ส่วนใหญ่ถ้าบอกว่าด่วน ก็น่าจะได้ภายใน 1 หรือ 3 เดือน อย่างตอนนี้เรามีกรุ๊ปที่รอด่วนอยู่ 4 ราย คือด่วนกันหมดเลย แต่ยังไงคนสุดท้ายของด่วนมันก็คงไม่ใช่ว่าจะได้ภายใน 1 เดือน เพราะต้องรอคนแรก คนที่ 2 คนที่ 3 ได้ แต่เราบริหารจัดการเองได้ว่า 4 ราย ใครด่วนกว่าใคร แต่ทั้ง 4 รายอยู่ในกลุ่มด่วนหมด

กลุ่มไม่ด่วนนอนอยู่บ้าน คือเป็นโรคหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายที่เราตรวจมาหมดแล้วคือต้องเปลี่ยน แต่เราปรับยาได้ดีพอที่เขาจะรออยู่ที่บ้านได้ แต่บางเคสกลับบ้านไม่ได้เลย กลับคือตาย ต้องนอนรอที่โรงพยาบาลเพราะว่าต้องให้ยา ใส่เครื่องปั๊มหัวใจห้องซ้ายห้องขวาแทนทั้งสองข้างข้าง

คนจนมีสิทธิ์เปลี่ยนหัวใจไหม?

ได้หมด ไม่ใช่แค่คนมีเงิน เพราะว่า สปสช. ประกันสังคม ข้าราชการเบิกได้หมด 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณเป็นคนไทย คุณต้องมี สปสช. ที่แต่ก่อนเขาเรียกว่า 30 บาท ถ้าคุณไม่ได้ทำงานใดๆ เลย คุณต้องมี สปสช. เพียงแต่ว่ามันต้องเป็นไปตามกระบวนการ สมมติคุณอยู่โรงพยาบาลเล็กๆ ตามตะเข็บชายแดน มันก็ต้องค่อยๆ ทำเรื่องมาที่ศูนย์ ทำเรื่องไล่มาเป็นสเต็ป

ค่าใช้จ่ายที่เราคำนวณไว้คร่าวๆ ปีแรกอาจจะใช้ใกล้ๆ 1 ล้านบาท จริงๆ ค่าผ่าตัด ค่าไหมเย็บ ไม่ต่างกับการทำลิ่มหัวใจ แต่มันจะมีเรื่องของยาที่เบิกไม่ได้ เราต้องจ่ายเอง ยากดภูมิบางตัวหรือมียามากดภูมิที่พิเศษ บางทีคนไข้อาจจะไม่ได้แมช 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องเอายากดภูมิแบบพิเศษมาช่วยเสริม แล้วบางทีอย่างที่บอกเกิดมันมีโรคแทรกซ้อน เราก็ต้องมีเครื่องพยุงไว้อีกอาทิตย์หนึ่ง หรือต้องมีมาตรวจชิ้นเนื้อซึ่งช่วงแรกจะตรวจถี่ เพราะการจะรู้ว่าหัวใจมันรับไม่รับ เราต้องตรวจชิ้นเนื้อ ถ้าเรารอจนมันมีอาการขึ้นมา มันจะช้าไป แปลว่าหัวใจมันโดนร่างกายรีเจกต์ที่เขาเรียกว่าร่างกายมันไม่เอา มันจะส่งเม็ดเลือดขาวมากิน ถ้ารอจนมันกินถึงขั้นรู้สึกขึ้นมาว่าทำไมมันเหนื่อย อันนี้ช้าไป ก็เลยเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา แล้วก่อนผ่าก็มีการตรวจเลือดอีกหลายแบบที่ต้องตรวจก่อน แต่พูดถึงการผ่าการเย็บจริงๆ ไม่ต่างกับผ่าลิ้นหัวใจ เพราะฉะนั้นตรงนั้นไม่ใช่ตัวแพง

การป้องกันตัวเองจากโรคหัวใจ

โรคหัวใจมันมีทั้งส่วนที่ป้องกันได้แล้วก็ป้องกันไม่ได้ ป้องกันไม่ได้ เช่น กรรมพันธุ์ สมมติคุณพ่อ คุณน้า คุณอา คุณพี่ เป็นโรคหัวใจตั้งแต่อายุยังน้อยกันหมด คุณก็มีโอกาสเป็นอยู่แล้ว คุณป้องกันไม่ได้ แต่คุณสามารถจะตรวจได้ว่าเป็นหรือเปล่า เพื่อจะได้ระวังหรืออย่างน้อยก็จะได้ปรับชีวิตปรับพฤติกรรมให้มันดีขึ้นอีก แต่ปัจจุบันก็ต้องมีการตรวจร่างกายสม่ำเสมอ ลดพฤติกรรมชีวิตที่มีความเสี่ยง ทีนี้โรคนี้มันก็จะมากับอายุด้วย ฉะนั้นถ้าพฤติกรรมชีวิตดีหมดเลย คุณก็จะอายุยืนขึ้น แต่ ณ จุดหนึ่งที่อายุยืนขึ้นยังไงมันก็ต้องมีการเสื่อมสภาพของร่างกาย เข่าเสื่อม ต่อมลูกหมากเสื่อม กระจกตาเสื่อม เส้นเลือดหัวใจหรือลิ้นหัวใจก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สุดท้ายมันก็ต้องเสื่อม บางคนก็สมองเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์ เพราะฉะนั้นโรคนี้ยังไงสุดท้ายมันก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ เมื่อคุณถึงวัยที่ชรา

ติดตามชมภารกิจส่งหัวใจได้ที่นี่

Advertisement

แชร์
ทุกวินาทีคือชีวิต เบื้องหลังภารกิจนำส่งหัวใจ ต่อชีวิตคนรอ..ให้รอด