ตายแล้วฟื้นมีจริงหรือไม่? โลกหลังความตายที่ยากจะเชื่อ อีกมิติที่ไม่มีใครเคยเห็นจากปากคนที่บอกว่าเคยเจอมาแล้ว
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...
โลกหลังความตายที่ได้เจอ อีกมิติที่ไม่มีใครเคยเห็น จากปากของ เดชา พุ่มพก มัคนายก วัดคลองแอนพัฒนาราม กับประสบการณ์ชีวิตที่เคยตายแล้วฟื้น ได้เห็นนรก-สวรรค์ โลกหลังความตาย ก่อนจะได้รับโอกาสใหม่ฟื้นขึ้นมากลายเป็นคนพิการใส่กระโหลกเทียม แต่ฮึดสู้จนหายดี เพื่อกลับมาบอกกับทุกคนว่า เวรกรรม วิบากกรรม กฎแห่งกรรม นรก-สวรรค์มีอยู่จริง
ย้อนเวลากลับไปประมาณปี 2550 ช่วงเดือนสิงหาคม ตอนนั้นผมไปฝึกเลื่อนยศตามแนวทางรับราชการของนายทหารกำลังสำรอง ก่อนที่จะไปภาคสนาม มีอยู่คืนหนึ่งผมฝันเจอเทวดาเหมือนกับเป็นเจ้าเมือง แต่เป็นเทวดาที่เป็นยักษ์ กายท่านสีฟ้า ท่านบอกว่าอดีตชาติผมเคยอยู่กับท่าน แต่ตอนนี้มันมีวิบากกรรม แล้วท่านจะช่วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้ผมกลืนน้ำลาย 3 อึก
แล้วผมก็นอนแข็งทื่อ แน่น หายใจไม่ออก พอกลืนน้ำลาย 3 อึกผมก็ตกใจตื่น ตอนนั้นตื่นขึ้นมาเวลา 03.05 น. พอจบภารกิจรับราชการช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม เข้าเดือนกันยายนก็มีอยู่คืนนึงฝันแบบเดียวกันเลย พอกลืนน้ำลาย 3 อึกปุ๊บตกใจตื่นมาเวลา 03.05 น. เหมือนเดิม
จนมาตุลาคมอีกรอบหนึ่ง ฝันลักษณะเดียวกัน ไปที่เดิมเจอเทวดาองค์เดิม เจอพื้นที่แบบเดิม แน่น หายใจไม่ออกเหมือนเดิม ตื่นมาเวลา 03.05 น. เหมือนเดิม ครั้งนั้นใจเสียแล้ว บอกตรงๆ ใจเสียเลย เล่าให้รุ่นพี่ที่สนิทกันเขาบอกว่าชะตาขาดแล้ว
พอเข้าเดือนพฤศจิกายน ตอนนั้นทำงานเป็นนักแสดงสตั๊นท์แมนอยู่ที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง ระหว่างที่แสดงเสร็จแล้ว บ่ายสามโมง วันรุ่งขึ้นจะต้องมีรายการหนึ่งเข้ามาเช็คพื้นที่เพื่อให้ตรงนั้นมันเรียบร้อย หน้าที่ของผมคือจะยกเสาขึ้นโดยมีคนหนึ่งคอยกดรอก ผมจะเป็นคนใส่สลัก เป็นเสาเหล็กตรงที่เป็นเสาไฟฟ้าเทียม ส่วนแผ่นเหล็กที่ติดอยู่ที่เสาน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม มันเป็นเอฟเฟ็กต์ที่เวลาในการแสดง ถ้าเกิดเสาต้นนี้ล้ม มันจะล้มลงสู่น้ำ แล้วน้ำจะแตกกระจาย
พอเสาต้นนี้เราตั้งตรงแล้ว รอยเชื่อมที่อยู่ข้างบนมันน่าจะหลุด แล้วหล่นลงมาฟาดกลางหัว เวลาที่ผมเกิดอุบัติเหตุคือ 15.05 ซึ่งถ้าเป็นเวลากลางคืนตัวเลขก็คือ 03.05 น. เพียงแต่ว่าต่างกันแค่กลางวันและกลางคืน
มันเหมือนมีอะไรกระแทกตัวเองอย่างรุนแรง ตาค้าง มือไม้กระดิกอะไรไม่ได้ ตัวแข็ง แน่น หายใจไม่ออก เริ่มมองอะไรไม่เห็น ตอนนั้นคิดว่าตัวเองตายแน่ๆ เรียกว่าจะขาดใจจะตายอยู่แล้วเวลานั้น น้องที่ทำงานบอกว่าเอาเสื้อเอาผ้าหลายตัวมาซับเลือดให้ เพราะเลือดเยอะมาก จนบางคนถึงขั้นทำใจแล้ว
มีเสียงหนึ่งวิ่งเข้าหู จำได้เลยว่าหูข้างขวา เสียงนั้นย้ำเตือนกับผมบอกว่า ลืมไปแล้วหรือไงว่าให้กลืนน้ำลาย 3 อึก แต่มันเป็นการกลืนน้ำลาย 3 อึกที่ลำบากจริงๆ เพราะร่างกายมันเริ่มไม่ตอบสนองแล้ว อึกแรกอึกที่สองยาก พออึกที่สามเท่านั้นแหละมันเหมือนอะไรที่ค้างอยู่ในคอ มันโล่ง ก็เริ่มหายใจได้ ตอนนั้นเหมือนทำใจแล้วแหละว่าจะตายตอนไหน เรียกว่าเตรียมตัวตาย
พอถูกส่งไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ให้ญาติพี่น้องทำใจ โอกาสรอด 70-30 คือโอกาสไป 70 รอดแค่ 30 แล้วรอดออกมามีแค่ 2 อย่างคือไม่พิการก็เป็นเจ้าชายนิทรา เป็นมนุษย์ผัก ตอนนั้นทุกคนถึงขั้นเตรียมวางแผนกันแล้วว่าใครเป็นเจ้าภาพ วางแผนงานศพกันแล้ว ผมไม่รู้รอบข้างผมเขาทำอะไรกันบ้าง จนผมหายใจเข้าแล้วเหมือนตัวเองหลุดไป แล้วมองเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียง
อยู่ๆ ผมก็ถูกดึงถอยหลังไปในที่ๆ เป็นเหมือนอุโมงค์ห้องโถงที่ใหญ่มาก แล้วก็ถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ แบบไม่ได้เดินเอง ข้างๆ จะมีแรงดึงดูดเป็นวงๆ วงเล็กวงใหญ่รอบตัวไปหมด ซึ่งแรงดึงนั้นมันคือแรงกรรม แต่ตัวผมเองเหมือนกับว่าได้รับการละเว้น แล้วก็จะมีผู้คุมที่อยู่ข้างบน เป็นยักษ์ตนใหญ่มากๆ ความรู้สึกตอนนั้น รู้ได้ด้วยตัวเองว่าคือพ่อปู่ท้าวเวสสุวรรณ
จู่ๆ ก็ถูกส่งไปอีกที่หนึ่ง เป็นที่ๆ มีกำแพงคล้ายกำแพงดินสีดำ แต่ว่ามีเปลวไฟ มองเห็นเป็นเหมือนทะเลเพลิง มันลาดลงไป รู้ทันทีว่านั่นคือนรก ที่เขาบอกว่าต้นงิ้ว กะทะทองแดง ในวัดที่พวกเราเห็น มันเยอะมากจนพรรณาไม่หมดว่ามันเยอะขนาดไหน จะมีเงาดำร่างดำๆ ขนาดใหญ่ มีอาวุธคล้ายขวานใหญ่คอยสับคนให้หล่นลงไปข้างล่างที่เป็นเหมือนน้ำไฟ แล้วก็วนขึ้นมาให้เขาสับใหม่ วนอยู่อย่างนี้ พร้อมกับเสียงที่ก้องไปหมด โหยหวนที่สุด ลึกและน่ากลัว
แล้วเหมือนตัวเราหันมาอีกที่หนึ่ง คนละฝั่ง ที่ตรงนี้ต่างกันลิบเลย มันหอม เย็น สะอาด มีความสุข รู้เลยว่ามันเป็นสวรรค์แน่ มีเสียงเพลง มีคนร่ายรำ บางคนก็นั่งสมาธิบางคนเดินช้าๆ มีศาลาใหญ่มโหฬารมีคนนั่งอยู่ข้างในนั้น แล้วพอมองขึ้นไปข้างบนก็เห็นว่ามันยังมีอีก
ก่อนจะถูกพาวนกลับมาอีกที่หนึ่ง มีร่างๆ หนึ่งปรากฎกายขึ้น จะบอกว่าเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่เป็นผู้ชายก็ไม่เชิง เขาถามว่า ณ เวลานี้จะติดต่อใคร ผมเองตอนนั้นนึกถึงลูก เขาบอกขอแค่มีเหรียญๆ เดียว จะโทรหาใครก็ได้ ผมหาทั้งตัวแม้กระทั่งเหรียญๆ เดียว ยังหามาไม่ได้
เขาถามผมว่ามีอะไรติดค้างอยู่ไหม ผมบอกติดค้างอยู่ 2 เรื่อง หนึ่งลูกยังเล็ก สองวัดคลองแอนพัฒนาราม ณ ตอนนั้นยังไม่เป็นวัดเป็นอะไรเลย แล้วท่านก็ให้โอกาสผมกลับมา พอข่าวว่าผมฟื้น เขาไม่เชื่อกันนะ เพื่อนที่ทำงานเขาไม่เชื่อเลย ต้องมาดูให้เห็นกับตา
ฟื้นจากความตายกลายเป็นคนพิการ ที่เชื่อว่ามันเป็นหน้าที่ เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนนรก-สวรรค์
ตอนนั้นแผลมันโบ๋ ผ่าตัด เย็บยังไงก็เป็นแผลเหมือนตัวตะขาบ จึงได้ผ่าตัดอีกรอบหนึ่งเพื่อใส่กะโหลกเทียม ย้อนเวลาไปวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผมออกจากโรงพยาบาล จังหวะเดียวกับที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนนั้นท่านยังอยู่ ท่านบอกว่าคนเราร่างกายป่วยได้ แต่อย่าให้ใจป่วย ผมเลยมีแรงฮึด ไม่ยอมแพ้ ระหว่างนั้นก็เริ่มทำกายภาพตัวเอง
มนุษย์ทุกคนมีความกลัว กลัวความทรมาน กลัวว่าระหว่างตายเราไม่ทันได้เตรียมตัว มันเป็นหน้าที่ที่ท่านให้ผมกลับมา ให้ผมมาบอกทุกคนว่าเวรกรรมมันมีจริง วิบากกรรมมันมีจริง กฎแห่งกรรมมีจริง เมื่อถึงเวลาของมัน แล้วก็นรกสวรรค์มันมีอยู่จริง
บางคนก็ว่าผม ด่าผม ว่ากินมาก นอนมาก ฝันมาก ด่าผมถึงขนาดเป็นไอ้เพ้อเจ้อ บูลลี่ในร่างกายด้วย แรกๆ ผมก็หัวร้อนนะ แต่หลังๆ มาผมก็มานั่งพาจารณาว่า เอ๊ะ เราก็เอาเรื่องดีๆ มีประสบการณ์มาบอก แต่เขาไม่เชื่อ มันต้องเป็นทุกข์ของเราหรอ ไม่ใช่นี่ มันเรื่องของเขา มีคนที่มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังแล้ว คุณจะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของคุณสิ เพราะคนที่ลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ก็คือตัวคุณไม่ใช่ตัวผม
ติดตามเรื่องราวตายแล้วฟื้น เรื่องราวโลกหลังความตายได้จากคลิปนี้
Advertisement