เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 พ.ค. 68 เฟซบุ๊กเพจ “กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force” โพสต์ข้อความระบุว่า “เวลา 12.42 น. กองทัพอากาศ สั่งการด่วน ส่ง 2 F-16 จากกองบิน 4 ตาคลี ขึ้นสกัดกั้นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ K8 มีทิศทางเข้าใกล้แนวชายแดน จ.กาญจนบุรี”
ต่อมาเวลา 13.30 น. วันที่ 16 พ.ค. 68 พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า หน่วยควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ ได้ตรวจจับอากาศยานดังกล่าวในระยะเข้าใกล้แนวชายแดน และได้ดำเนินการตามระเบียบการปฏิบัติประจำทันที ด้วยการติดต่อแจ้งเตือนผ่านคลื่นความถี่ฉุกเฉิน (On Guard) พร้อมทั้งสั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จากกองบิน 4 ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจการบินลาดตระเวนรบเฝ้าระวังทางอากาศ เพื่อแสดงศักยภาพในการควบคุมและป้องกันน่านฟ้าไทยอย่างชัดเจน
อากาศยานทหารเมียนมาดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางออกจากเขตแดนไทยในเวลา 12.48 น. โดยไม่มีพฤติกรรมรุกรานหรือกระทำการที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยแต่อย่างใด
กองทัพอากาศขอยืนยันว่า การปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของน่านฟ้าไทย เป็นภารกิจหลักที่ดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง โดยมีการเฝ้าตรวจ ค้นหา พิสูจน์ฝ่าย และสกัดกั้นอากาศยานที่มีพฤติกรรมผิดปกติหรือเข้าใกล้เขตแดนในลักษณะที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในความปลอดภัยของน่านฟ้าไทย
สำหรับ แบบ K-8 หรือ คาราโครัม-8 เป็นเครื่องบินฝึกไอพ่นเครื่องยนต์เดียวขั้นสูงและเครื่องบินโจมตีเบาที่ออกแบบและผลิตร่วมกันโดย Hongdu Aviation Industry Corporation (HAIC) แห่งประเทศจีนและ Pakistan Aeronautical Complex (PAC)
Advertisement