วันที่ 9 ต.ค. 68 ในโลกออนไลน์แห่วิพากษ์วิจารณ์ และแชร์เรื่องราวของ ไรเดอร์รายหนึ่งที่ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์ผ่าน กลุ่มเฟซบุ๊กว่า "รับลูกจากXXX พอดีเกิดอุบัติเหตุ หน้าคอนโดมีแอ่งน้ำ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ "ลื่นแต่ไม่ล้ม" ลูกค้าได้รับบาดเจ็บ ผมถาม ลูกค้าเจ็บไหมไปหาหมอไหม เขาบอกให้ผมกดยกเลิกงาน ผมก็กดยกเลิกให้ แล้วลูกค้าเดินขึ้นคอนโด ยังไม่เคลียร์อะไร (คิดในใจเขา คงไม่เอาเรื่อง)”
“ผมก็เปิดรับงานต่อ 2-3 งาน สักพัก cc โทรไห้ ไป สน.พญาไท เพราะถูกแจ้งความเรียกค่าเสียหายรองเท้ามูลค่า 16,000 บาท ถ้าซ่อมเสียประมาน 1,600 บาท แต่ผู้เสียหาย ให้ชดใช้ราคาเต็ม เพื่อไปซื้อของใหม่ แต่ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเหตุการณ์มันเป็นอุบัติเหตุไม่อยากให้เกิด แต่ผู้โดยสารลงบันทึกให้ผมชดใช้ ซึ่งผมไม่มีเงินสด ขอผ่อนได้ไหม 8 งวด งวด 2,000 ผมจ่ายไปแล้ว 2,000 ที่ สน. แต่ผมไม่อยากเสียมากกว่านี้ ผมควรจ่ายค่าเสียหายต่อหรือต้องทำอย่างไง”
ขณะที่ลุงทนายให้คำปรึกษากับไรเดอร์ว่า เคสนี้น้องไรเดอร์ไม่ปรึกษาใครก่อนไปตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้เขาที่ สน. 16,000 บาท พอตกลงเสร็จค่อยมาถามในกลุ่ม ลุงทนายเห็นว่ามันปลายทางแล้วเลยให้คำปรึกษาว่า ถ้าผ่อนหมดแล้ว ก็ขอรองเท้าคู่นี้มา เอาไปซ่อมแล้วขาย น่าจะพอได้เงินกลับคืนมาบ้าง แต่ในทางกฎหมายน้องไรเดอร์ขับรถด้วยความระวัง ไม่ได้จงใจ ไม่ได้ประมาท ก็ไม่มีความรับผิดในทางละเมิด ที่จะต้องชดใช้ถ้าถนนมันเป็นหลุม สุดวิสัยที่หยุด หรือหลบได้ทันต้องไปฟ้องเอาค่าเสียหายจาก กทม. หรือเขตขึ้นอยู่กับใครเป็นเจ้าของถนน อันนี้คือหลักความรับผิดในทางกฎหมายครับ
ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
Advertisement