ปลดล็อกกัญชา กัญชาถูกกฎหมายวันไหน หลังราชกิจจานุเบกษาประกาศถ้าครบ 120 วัน จะมีผลให้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดประเภท 5 ทั้งส่วนของช่อดอก ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น ราก และเมล็ด
กัญชาจะถูกกฎหมายได้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุข ระบุยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 2565 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 65 ซึ่งจะมีผลหลังจาก 120 วัน ทำใ้ห้กัญชาจะถูกกฎหมายได้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งตามร่างดังกล่าวจะควบคุมเรื่องการปลูก สกัด ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เป็นหลัก รวมถึงการใช้ในเชิงนันทนาการด้วย
ทั้งนี้การปลูกกัญชา หากใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ต้องมีการจดแจ้งกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และจดแจ้งต่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือผู้ซึ่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมอบหมาย สำหรับพื้นที่อื่น ซึ่งผู้ขอจดแจ้งต้องเพาะ ปลูก กัญชา กัญชงตามที่ได้จดแจ้งไว้
ส่วนผู้ที่ปลูกเพื่อผลิต นำเข้า ส่งออก หรือขาย ต้องได้รับอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ อย. มอบหมาย ส่วนการสกัด-แปรรูป ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.เช่นกัน ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปี
- สตรีมีครรภ์
- สตรีให้นมบุตร
- บุคคลอื่นใดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
อย่างไรก็ตาม ข้อห้ามข้างต้น ไม่ใช้บังคับแก่การขายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่สั่งจ่ายให้แก่คนไข้ของตน เพื่อประโยชน์ในการบำบัดรักษาโรค ส่วนการโฆษณา ต้องมีการขออนุญาตกับ อย.ก่อน ส่วนข้อกังวลเรื่องการควบคุมการใช้ในเชิงสันทนาการ ในร่างดังกล่าวไม่มีระบุถึงการควบคุมกำกับไว้ชัดเจน
อนึ่ง ในช่วงท้ายของร่างกฎหมายฉบับนี้ มีบทเฉพาะกาลระบุไว้ ประเด็นสำคัญคือ ในระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ การนำเข้ากัญชา กัญชง ให้กระทำได้เฉพาะกรณี คือ
1. เพื่อการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย
2. เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์
จากกรณีที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ซึ่งจะมีผลให้ทุกส่วนของกัญชา กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติดประเภท 5 ยกเว้นสารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2 % ยังเป็นยาเสพติด ในเรื่องการปลูกนั้น ผู้ที่ต้องการปลูกสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน "ปลูกกัญ"
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตือน กัญชาป็นพืชที่มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ต่อทางจิตประสาท ต้องระวังไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์และเกิดโทษตามมา ประชาชนต้องมีความรู้การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ว่าใช้กัญชาได้ทุกชิ้นส่วน ที่ไม่ใช่สารสกัด อยากให้ประชาชนได้ใช้ในการดูแลสุขภาพเพราะเป็นพืชที่มีประโยชน์ ใช้รักษาและดูแลได้หลายอย่าง เช่น มะเร็ง คลื่นไส้อาเจียน ลมชัก เป็นต้น ซึ่งเป็นการนำไปใช้ทางการแพทย์เป็นยา หรือน้ำมันกัญชา
นอกจากประโยชน์ที่ได้แล้ว ผลข้างเคียงผลเสียของกัญชาก็คือ หากใช้มากเกินไป ใช้ผิดวิธี ใช้เกินจากที่กำหนดไว้ อาจจะทำให้มีปัญหาต่อระบบจิตประสาทได้ เช่น การเอาไปสูบ หรือทำเป็นสารสกัด หรือทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ กัญชา พ้นยาเสพติดประเภท 5 มีผลบังคับใช้ในอีก 120 วัน
- ปลดล็อก กัญชา บอร์ด ป.ป.ส.ให้ถอดพ้นยาเสพติด ปลูกในบ้านได้ แต่ต้องจดแจ้ง
- อย. จัดทำ ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง เน้นคุมนันทนาการและส่งเสริมการใช้ประโยชน์เต็มที่
Advertisement