ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.15 น. (2 ส.ค. 2568) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานประชุมมอบนโยบายและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต จากสถานการณ์ความไม่สงบด้านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและญาติผู้สูญเสียจากความไม่สงบด้านชายแดนไทย-กัมพูชาให้การต้อนรับ
ทั้งนี้จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการปะทะกันระหว่างกองกําลังไทยกับกัมพูชาในวันที่ 24 ก.ค. 2568 ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยได้มีระเบิดตกใส่ร้านสะดวกซื้อในปั้มน้ามัน ปตท.บ้านผือ ต.เมือง อํ.กันทรลักษ์ ทําให้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวน 7 ราย ในสวนยางด้านหลังปั๊มน้ำมันดังกล่าวอีก 1 ราย และตกใส่บ้านเรือนของประชาชนใน ตํ.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ อีก 1 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 9 ราย
ดังนั้นวันนี้ (2 ส.ค. 2568) จึงได้มีการนำเงินของกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายากรัฐมนตรี มามอบให้รายละ 1 ล้านบาทรวม 9 ล้านบาท และมอบเงินค่าจัดการศพผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอีกรายละ 29,700 บาท โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือดังนี้
ครอบครัวที่ 1 เป็นครอบครัวที่ ด.ช.พงศภัค ประชัน (น้องฟรีคิก) อายุ 8 ปี, ด.ญ.ทักษพร ประชัน (น้องผักบุ้ง) อายุ 14 ปี และน.ส.รุ่งรัศ ประชันอายุ 40 ปี ชาว ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เสียชีวิตจากเหตุระเบิดลงที่ปั๊มน้ำมันปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มี นายคมสันต์ ประชัน เป็นสามีและบิดาของผู้เสียชีวิต เดินทางมารับมอบเงินในครั้งนี้
ครอบครัวที่ 2 เป็นครอบครัวที่ ด.ช.กิตติศักดิ์ คำวัง (น้องซีเกมส์) อายุ 8 ปี เสียชีวิตจากเหตุระเบิดลงที่ปั๊มน้ำมันปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มี นายทะนงศักดิ์ คำวัง เป็นบิดาของผู้เสียชีวิต มารับมอบเงินในครั้งนี้
ครอบครัวที่ 3 เป็นครอบครัวที่ นางอรุณรัตน์ วันศรี อายุ 62 ปี ชาว ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เสียชีวิตจากเหตุระเบิดลงที่สวนยางหลังปั๊มน้ำมันปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มี นายอุทิศ วันศรี มารับมอบเงินในครั้งนี้
ครอบครัวที่ 4 เป็นครอบครัวที่ น.ส.สาวิตรี อ่อนทรวง อายุ 19 ปี เสียชีวิตจากเหตุระเบิดลงที่ปั๊มน้ำมันปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีนางวิภาวี แก้วสมบัติ เป็นตัวแทนมารับมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้
ครอบครัวที่ 5 เป็นครอบครัวที่ นางจำปี เต็มจิต อายุ 50 ปี และ ด.ช.พีรพัฒน์ คุณาพันธ์ อายุ 14 ปี เสียชีวิตจากเหตุระเบิดลงที่ปั๊มน้ำมันปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มี นายพงษ์ศักดิ์ คุณาพันธ์ เป็นสามีและบิดาของผู้เสียชีวิต เดินทางมารับมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้
และครอบครัวที่ 6 เป็นครอบครัวที่ นายสมศรี ลาภบุญ อายุ 58 ปี ชาว ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นชรบ.เสียชีวิตจากเหตุระเบิดตกลงบ้านเรือนที่บ้านหนองเม็ก หมูที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มี นายสมเพชร ลาภบุญ เดินทางมารับมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้
ทั้งนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบนโยบายให้กับ จ.ศรีสะเกษ โดยเรื่องแรก พมจ.ศรีสะเกษ เร่งรวบรวมเอกสารของพี่น้องผู้ประสบภัยให้ครบถ้วนโดยเร็ว ถ้ามีนโยบายจากภาครัฐที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนให้เร่งดำเนินการ
เรื่องที่สองให้ ผวจ.ศรีสะเกษ ติดตามการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอย่างเร่งด่วน เพื่องบประมาณดังกล่าวจะได้ลงมาช่วยพี่น้องประชาชนได้ทันถ้วนที
เรื่องที่สามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบผู้ประสบภัยรายอื่นๆ ที่อาจจะตกหล่นและประชุมสรุปหลักเกณฑ์รายละเอียดของแต่ละราย เพื่อจะได้เร่งเบิกจ่ายเงินเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวและผู้ประสบ ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้การช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบล่าช้าแต่อย่างใด
เรื่องที่สี่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจโครงสร้างพื้นฐาน ถนน โรงพยาบาล โรงเรียน วัด บ้านเรือนประชาชน โบราณสถาน โบราณวัตถุ เพื่อขอรับการช่วยเหลือต่อไป
จากนั้น นายประเสริฐ และคณะเดินทางร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัย ณ สถานเกิดเหตุความรุนแรงบริเวณสถานีบริการน้ำมันบ้านผือ อ.กันทรลักษณ์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย อีกทั้งได้เดินทางตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ทำการไปรษณีย์ใน อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานด่านหน้าที่มีบทบาทในการสนับสนุนการสื่อสารและช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤต
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและตัวแทน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ฝากความห่วงใยมาถึงทุกท่านและฝากกําลังใจมาให้ผู้ปฏิบัติงาน การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเร่งเยียวยาและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ชายแดน รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง และต้องการให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด นอกจากการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว รัฐบาลยังมีมาตรการเพิ่มเติมที่จะออกมาในไม่ช้านี้เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ
"ในระยะเร่งด่วน รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย อาทิ ถนน สะพาน โรงพยาบาล โรงเรียน และแหล่งน้ำ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการติดตั้งอินเทอร์เน็ตให้กับชุมชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลและบริการของรัฐ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการส่งเสริมอาชีพและสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจหรือเกษตรกรรมใหม่สำหรับผู้ที่สูญเสียรายได้ โดยไปรษณีย์ไทย ได้เปิดโครงการ "ตู้ ปณ. ช่วยผู้ประสบภัยไทย-กัมพูชา" ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทสําคัญของไปรษณีย์ไทย ในการเป็นกลไกกลางเชื่อมโยงความห่วงใยจากคนไทยทั่วประเทศ ส่งตรงไปยังประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน เพราะเชื่อว่าการส่งต่อสิ่งของจําเป็น ไม่เพียงเป็นการช่วยเหลือด้านกายภาพ แต่ยังเป็นพลังใจที่ยิ่งใหญ่ในยามยากลําบาก" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีกล่าว
Advertisement