จากกรณี เด็ก7ขวบ ที่ครูใช้ฟุตเหล็กฟาดหน้า เพราะไปหยิบขนมบนโต๊ะครู ซึ่งครูฟาดหน้า 14 ครั้ง ตบปาก10 ครั้ง หยิกคอและไล่ให้ไปล้างห้องน้ำ ไม่กล้าบอกแม่
ซึ่งรอยฟกช้ำตามใบหน้า คางข้างใบหูของน้องพ๊อต ยังคงเห็นรอยช้ำอย่างชัดเจน แม้ว่าจะผ่านไป 3 วันแล้ว ซึ่งน้องก็ยังกลัว บางครั้งนั่งเหม่อ โดยน้องได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนั้น้องไปทำอะไรผิดที่ครูต้องลงโทษน้องบอกว่าวันที่ไปโรงเรียน แม่ไม่ได้ให้เงินไป เมื่อไปในห้องเห็นขนมมาร์ชแมลโลว์ วางอยู่บนโต๊ะครูหลายอัน ตนอยากกินจึงไปหยิบมากิน 1 อัน พอตอนเที่ยงครู ก็เรียกไปแล้วก็ลงโทษ บอกว่า ขโมยขนมครู โดยครูใช้บรรทัดเหล็กตีที่หน้าทั้ง 2 ข้าง 14 ครั้งตบปาก 10 ครั้งหยิกคอและให้ไปล้างห้องน้ำ
ขณะที่ นางดา(นามสมุมติ) อายุ 48 ปี แม่น้องพ๊อต อาชีพรับจ้าง บอกว่าวันนั้นตอนเย็น ครูเอ(นามสมมุติ) ได้โทรมาบอกตนว่า ลูกขโมยขนมครูไปกิน ไม่ได้บอก ว่าทำโทษลูกจนกระทั่งเลิกเรียน อาไปรับลูกกลับมาส่งที่บ้าน ซึ่งตนกลับมาจากทำงานเห็นลูกนั่งเหม่อ อยู่หน้าบ้านและเห็นรอยช้ำที่ใบหน้า เมื่อถามลูกบอกว่าครูตี เพราะไปเอาขนมบนโต๊ะครูมากิน ได้ฟังลูกบอกแล้วตนเองจุกอกมาก เพราะวันนั้นไม่ใช่ว่า ลืมไม่ให้เงินลูกไปซื้อขนมกิน แต่ตนไม่มีเงินที่จะให้ลูกไปโรงเรียนจริงๆ ต้องโทษตัวเองและสงสารลูกมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ใหญ่ไม่อยู่ ซึ่งยอมรับว่ารับไม่ได้ที่ครูทำรุนแรงกับลูกขนาดนี้
ทั้งๆที่เด็กยังเล็ก และก็ไม่รู้ว่าเหล็กที่ฟาดไปนั้น จะกระทบอะไรกับตัวลูกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือลูกผวาบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียนเพราะกลัวครูตี อยากบอกทางโรงเรียน ว่าขอให้ย้ายครูคนนี้ไปอยู่ที่อื่น ไม่ควรให้อยู่กับเด็ก
ด้านนายรัตน์ อุหม่อง กำนัน ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นายณรงค์ เดชวงศ์อ้าย ผู้ใหญ่บ้านข่วงม่วง และนายสุรพร จันทร์ทบ สารวัตรกำนัน ตำบลนาสัก ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเช้านี้นายสุรพร จันทร์ทบ สารวัตรกำนัน ตำบลนาสัก เห็นน้องพ๊อตวัย 7 ขวบไม่ไปโรงเรียน และพบว่าใบหน้าที่แก้มมีรอยแดงช้ำ และขอบตายังเลือนๆ จึงสงสัยตอนแรกคิดว่าถูกแม่ทำร้าย จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ และผู้ใหญ่บ้านไปสอบถามน้องจนทราบว่าถูกครูประจำชั้นตี ด้วยฟุตเหล็กตน จึงเห็นว่าการกระทำของครู เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เป็นการทำร้ายเด็กรุนแรง จึงให้แม่พลูกไปตรวจร่างกาย และให้เข้าแจ้งความ พร้อมแจ้งกำนันให้สอบถามทางโรงเรียนเพราะมีการประชุมที่โรงเรียนอยู่แล้วในวันนี้
ต่อมาครูเอ คนก่อเหตุได้โทรมาหากำนัน เพื่อขอโทษและขอไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งในเรื่องนี้ ตนบอกว่าเรื่องเกิดมา 3 วัน แล้วทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกผิดวันนี้ หากไม่มีใครรู้ก็คงเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหากปล่อยไว้เด็กคนอื่นก็อาจจะถูกทำร้ายร่างกายแบบรุนแรงในลักษณะนี้อีก ซึ่งผลการตรวจร่างกายของแพทย์ ก็ระบุว่ารอยช้ำที่แก้มซ้ายของน้องพ๊อตเกิดจากโดนวัตถุทรงแท่งไม่มีคมตี ซึ่งตนเองกำลังปรึกษาผู้ปกครองเพื่อเอาผิดครูคนนี้ ที่กระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อ เด็กซึ่งเป็นลูกศิษย์และอายุเพียง 7 ปี
นอกจากนี้ครูในโรงเรียนยังให้ข้อมูลว่า ครูคนดังกล่าวที่ผ่านมายังมีพฤติกรรมลงโทษเด็ก ด้วยการขังไว้ในห้อง และมีพฤติกรรมแปลกเก็บตัวและไม่ชอบสุงสิงกับใคร
ซึ่งทางด้านผู้ใหญ่บ้านบอกอีกว่าเย็นวันนี้ ที่แม่พาน้องไปแจ้งความ แม่ได้โทรกลับมาหาตนว่าตำรวจจะไม่รับ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการ อ้างว่ากลัวลูกจะมีประวัติคดีลักทรัพย์ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหาตำรวจแล้วแย้งว่ามันคนละประเด็น แม่พาลูกไปแจ้งความเพราะลูกถูกครูทำร้ายร่างกาย หากการที่เด็กไปหยิบขนมบนโต๊ะครูมากินแล้ว ครูเห็นว่าร้ายแรง จนถึงขั้นจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์กับเด็กมันคนละเรื่อง จนตำรวจรับแจ้งความในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ตนและกำนัน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนแห่งนี้ จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเพราะรับพฤติกรรมของครูรายนี้ไม่ได้เช่นเดียวกัน
Advertisement