วันที่ 1 ส.ค.68 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ได้พบกับพลทหารรายหนึ่งซึ่งอยู่ในภารกิจชายแดนที่ไม่เคยถูกเปิดเผยซึ่งเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.68 ซึ่งเป็นวันที่ฝั่งกัมพูชาเปิดฉากยิงกระสุน BM-21 ซึ่งทำให้หน่วยทหารชุดนี้ทั้งทหารราบ และทหารพรานรวม 70-80 คนต้องติดอยู่กลางป่าขาดการติดต่อจากหน่วยเหนือ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพลทหารรัชตะ ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา ได้เปิดเผยว่าตนและทีมติดอยู่ในป่านานถึง 4 วัน โดยหน่วยของตนมีทั้งหมด 70-80 คน ทั้งทหารราบและทหารพรานรวมกันได้รับภารกิจให้ไปตรึงกำลังที่ตำบลแห่งหนึ่ง ในแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กระทั่งวันที่ 24 ก.ค.68 ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น.จู่ๆก็รับได้คำสั่งจากหน่วยเหนือให้มีการถอนตัวฉุกเฉิน แต่ภายหลังได้รับคำสั่งถอนตัวแค่ 10 นาที ก็มีกระสุนจรวดจากฝั่งกัมพูชายิงถล่มหน้าแนวที่พวกตนประจำจุดอยู่ มีการระเบิดขวางหน้าเส้นทางที่หน่วยของตนกำลังจะถอนตัว แรงระเบิดทำให้ทหารในหน่วยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขาขวาจนเดินไม่ได้ ส่วนอีก 2 นายแค่ถูกแรงกระแทกเท่านั้น แต่ด้วยที่ไม่รู้สถานการณ์และได้รับบาดเจ็บทำให้หน่วยไม่สามารถถอนกำลังได้
พวกตนติดอยู่ในป่านานถึง 4 วัน ขาดกระติดต่อกับโลกภายนอก กระทั่งวันที่ 28 ก.ค.68 ที่มีการหยุดยิงมีทหารพรานสามารถติดต่อหน่วยเหนือได้ จึงทำการนัดพบเพื่อนำคนเจ็บออกไปส่งตัวและถอดกำลัง ซึ่งเมื่อถึงที่หมายก็มีทหารพราน 5-6 คนมารอรับและนำทางกลับออกจากป่าอย่างปลอดภัย
สุดท้ายตนอยากขอบคุณผู้หมู่และจ่าทุกคนที่ช่วยแบกร่างตนออกจากป่า รู้สึกเป็นบุญคุณมากๆที่ไม่ทิ้งกัน
ขณะที่นายณัฐวุฒิ พ่อของพลทหารรัชตะ เปิดเผยว่าในช่วงที่ลูกออกไปตรึงกำลังที่ชายแดนกัมพูชานั้น ไม่มีข่าวสารแจ้งกลับมาเลยว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร กระทั่งทางกรมทหารแจ้งมาที่ผู้ใหญ่บ้านว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บจากการรบถูกสะเก็ดระเบิดถึงได้รู้ข่าว ตนน้ำตาจะไหลเพราะตอนแรกก็กลัวว่าลูกจะเสียชีวิต สุดท้ายตนก็ขอให้กำลังพลปลอดภัยทุกคน
Advertisement