ปี 2568 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป นับเป็นปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย หลายเหตุการณ์สร้างความสุขจนกลายเป็นหมุดหมายสำคัญ แต่หลายเหตุการณ์ก็ทิ้งบทเรียนราคาแพงไว้ให้เราต้องตระหนัก “อมรินทร์ทีวีออนไลน์” ขอพาทุกท่านย้อนไทม์ไลน์สำรวจเหตุการณ์สำคัญในเดือนมกราคม เพื่อบันทึกไว้เป็นบทเรียนและการเรียนรู้ ก่อนที่เราจะก้าวต่อไปสู่ปี 2569 กับ “Big Stories 2025”
1. โศกนาฏกรรมรับปีใหม่: “ทัวร์มรณะ” กับคำถามเรื่องความปลอดภัยทางถนน
เปิดม่านวันที่ 1 มกราคม 2568 ด้วยข่าวเศร้าที่สั่นสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ เมื่อรถทัวร์นำเที่ยวแบบเช่าเหมาลำที่นำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับจาก อ.เบตง จ.ยะลา มุ่งหน้าสู่ จ.สมุทรสาคร เกิดเสียหลักแหกโค้งพุ่งชนต้นไม้อย่างรุนแรงบนถนนสาย 41 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
- ความสูญเสีย: เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 5 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย
- ปมสาเหตุ: แม้คนขับจะให้การว่าขับมาด้วยความเร็วเพียง 80-90 กม./ชม. และไม่พบสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่จากหลักฐานเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พบบ่งชี้ว่าอาจเกิดจากความประมาทในการเร่งเครื่องเพื่อ "แซงขวา" ในจังหวะที่ไม่เหมาะสม ประกอบกับความไม่ชำนาญเส้นทาง
- ปัจจัยซ้ำเติม: สภาพแวดล้อมอย่างแสงสว่างที่ไม่เพียงพอและเส้นจราจรที่เลือนราง กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนในจุดที่ห่างออกไปเพียง 4 กิโลเมตรในวันเดียวกัน ซึ่งคร่าอีก 6 ชีวิต จนนำไปสู่การเรียกร้องให้ทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยของถนนสาย 41 อย่างเร่งด่วน
2. หมุดหมายใหม่แห่งความเท่าเทียม: พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้
วันที่ 23 มกราคม 2568 ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
- การต่อสู้ที่ยาวนาน: นี่ไม่ใช่ชัยชนะที่ได้มาในชั่วข้ามคืน แต่เป็นการต่อสู้ทางความคิดที่ยาวนานกว่า 1 ทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 2555 ที่กลุ่ม LGBTQ+ เริ่มออกมาเรียกร้องสิทธิผ่านการพยายามจดทะเบียนสมรส จนถึงการผลักดันในสภาฯ หลายยุคสมัย
- สาระสำคัญที่เปลี่ยนไป: กฎหมายฉบับนี้เปลี่ยนคำนิยามจาก "ชาย-หญิง" เป็น "บุคคล-บุคคล" และเปลี่ยนจาก "สามี-ภริยา" เป็น "คู่สมรส" พร้อมปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรสเป็น 18 ปีบริบูรณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
- สิทธิที่ได้รับ: คู่รักทุกเพศได้รับสิทธิเท่าเทียมกับคู่สมรสชายหญิงทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการจัดการสินสมรส การรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม การรับบุตรบุญธรรม รวมถึงสิทธิในการเซ็นยินยอมรักษาพยาบาลและสวัสดิการข้าราชการ
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในอาเซียนด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ
3. ปาฏิหาริย์และการรอคอย: ฮามาสปล่อย 5 ตัวประกันไทยสุดท้าย
ข่าวดีที่ปิดท้ายเดือนมกราคมคือการเดินทางกลับบ้านของ 5 คนไทยกลุ่มสุดท้ายที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้จากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยมีการปล่อยตัวในวันที่ 30 มกราคม 2568
- 1 ปี 3 เดือนในฉนวนกาซา: ตัวประกันกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมายาวนานนับตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2566 รวมระยะเวลากว่า 450 วันที่พวกเขาขาดการติดต่อจากครอบครัว
- เบื้องหลังการเจรจา: ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า “Quiet Diplomacy” หรือนโยบายการทูตเงียบที่รัฐบาลไทยใช้ความสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย ทั้งอิสราเอล ปาเลสไตน์ และประเทศในโลกมุสลิม เพื่อยืนยันว่าคนไทยคือ "แรงงานภาคเกษตร" ที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งในสงคราม
- อ้อมกอดแห่งมาตุภูมิ: ทันทีที่เครื่องบินแลนดิ้งลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ บรรยากาศเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสุขและการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งของแรงงานไทยและครอบครัว
และนี่คือ 3 เหตุการณ์ใหญ่ที่เป็นเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของเดือนมกราคม 2568 เดือนที่เต็มไปด้วยบทเรียนจากโศกนาฏกรรม ความยินดีจากสิทธิที่เท่าเทียม และความโล่งใจจากการได้รับอิสรภาพ..