มิจฉาชีพดิ้นหนีกวาดล้างบัญชีม้า เปลี่ยนการโอนเงินหลายทอด เป็นการโอนเงินทอดเดียวออกไปบัญชีม้าคริปโท ทำให้ติดตามยาก และเป็นแหล่งฟอกเงินหลักของมิจฉาชีพ
หลังจากที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมากวาดล้างบัญชีม้าตั้งแต่กลางปี 2567 โดยปรับจากการดำเนินการระดับ "บัญชี" เป็นระดับ "บุคคล" และช่วงต้นปี 2568 ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้าเพิ่มเติม ทำให้สมาคมธนาคารไทยและสถาบันการเงินสามารถอายัดบัญชีม้าได้มากกว่า 2 ล้านบัญชี (ยอดสะสม ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568) ส่งผลให้มิจฉาชีพหาบัญชีม้าหน้าใหม่ได้ยากขึ้น จึงพัฒนาบัญชีม้าระดับบุคคลไปเป็นบัญชีม้านิติบุคคล เนื่องจากมีสามารถโอนเงินได้มูลค่าสูงกว่าบัญชีบุคคลธรรมดา ทำให้สามารถโอน-รับเงินมูลค่าสูงๆ และยังดูมีความน่าเชื่อถือเมื่อนำไปใช้หลอกเหยื่ออีกด้วย
มิจฉาชีพยังปรับวิธีการเริ่มตัดทอนบัญชีม้าให้สั้นลง จากเมื่อก่อนจะโอนผ่านบัญชีม้า 4-5 ทอด ก็เปลี่ยนมาโอนเงินเพียง 1-2 ทอด แล้วโอนไปสู่ บัญชีม้าคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวล เนื่องจากการตรวจสอบจะทำได้ยากขึ้น
ทำความรู้จัก บัญชีม้า 5 สี เช็กให้ดีเข้าข่ายถูกอายัดบัญชีแล้วหรือยัง
บัญชีม้าคริปโท มีความซับซ้อนกว่าบัญชีม้าธนาคาร การโอนเงินจากบัญชีธนาคารไปยังบัญชีคริปโทฯ ทำได้ผ่านบัญชีซื้อขายคริปโท 2 รูปแบบ ได้แก่
(1) บัญชีซื้อขายผ่านตัวกลาง เช่น ผ่านกระดานเทรด (exchange) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีการทำ KYC/CDD ตามเกณฑ์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
***กระบวนการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงของลูกค้า (Customer Due Dilligence: CDD) ช่วยป้องกันการทุจริตจากการปลอมแปลงข้อมูลบุคคลหรือการใช้ข้อมูลบุคคลอื่นในการทำธุรกรรมทางการเงิน
(2) บัญชีซื้อขายผ่านแพลทฟอร์มต่างประเทศแบบ Peer to Peer (P2P) ที่เป็นการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง
จากข้อมูลในระบบพบว่าช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพใช้บัญชีคริปโทเคอร์เรนซีเป็นช่องทางหลัก โดย 75% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด หรือเท่ากับ 6,700 ล้านบาท ถูกแปลงสภาพจากเงินบาทเป็นคริปโทฯ ซึ่งการโอนย้ายดังกล่าวสามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที ก่อนจะขายกลับคืนเป็นเงินบาทหรือเงินสกุลอื่นๆ เรียกว่าสามารถจบกระบวนการ “ฟอกเงิน” ได้ภายในวันเดียว
บัญชีม้าคริปโท จึงมีความซับซ้อนกว่าบัญชีม้าธนาคาร แม้หลายคนจะบอกว่าการทำธุรกรรมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีมีความโปร่งใส เพราะมีเทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่เบื้องหลัง สามารถตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมย้อนหลังได้ แต่ในความเป็นจริง แม้เราจะตรวจสอบการซื้อขายบนบล็อกเชนได้ แต่หากซื้อขายคริปโทฯ แบบ P2P ที่บัญชีต้นทางหรือปลายทางอาจไม่ได้มีการ KYC หรือ CDD เอาไว้ ก็จะรู้เพียงเหรียญคริปโทฯ จำนวนนี้ถูกโยกย้ายไปกระเป๋า “ใบไหน” แต่ไม่ทราบว่ากระเป๋าใบนั้นเป็น “ของใคร” ดังนั้น การติดตามเส้นทางเงินเพื่อจับมิจฉาชีพ และนำเงินมาคืนเหยื่อจึงเป็นไปได้ยากมาก
Advertisement