ผัวขี้ยาโหดตื้บลูก 2 เดือนประชดเมีย เด็กอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน
ผัวขี้ยาโหดตื้บลูก 2 เดือนประชดเมีย เด็กอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ตาคนก่อเหตุร่ำไห้ ไม่คิดหลานเครียดจนทำร้ายลูกตัวเอง ทั้งที่พื้นฐานนิสัยเป็นคนดี
จากรณีเฟซบุ๊กเพจ “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง”ได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า มีผัวเมียคู่หนึ่งใน จ.นครปฐม เสพยาด้วยกัน และมักมีเรื่องทะเลาะกันเกือบทุกวัน ล่าสุดช่วงบ่ายวานนี้ (15 ก.ย. 68) ทั้งคู่ทะเลาะกัน ซึ่งฝ่ายสามีลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาจนต้องวิ่งหนีขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่ทิ้งลูกชายวัย 2 เดือนไว้ในห้อง สามีจึงได้ลงมือกระทืบลูกชายแท้ๆวัยเพียง 2 เดือนของตัวเองจนแน่นิ่ง อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับตัวพ่อเมื่อช่วงสี่ทุ่ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาวันนี้ (16 ก.ย. 68) ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านที่สองสามีภรรยาอาศัยอยู่กับลูกน้อย 2 เดือน และทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายประกาย อายุ 28 ปี พ่อเด็ก
ทีมข่าวพูดคุยกับ คุณตาฮวด (นามสมมติ) อายุ 71 ปี ตาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ภายในบ้านอยู่กัน 4 คน มีหลานของตนเอง อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพ่อเด็กอายุ 2 เดือน และภรรยาของหลาน อายุ 40 ปี ซึ่งเธอมีลูกติดเป็นเด็กชายอายุ 4 ขวบ และก็ยอมรับว่าหลานชายเป็นผู้ป่วยบำบัดยาเสพติด ส่วนหลานสะใภ้ก็เสพยาเช่นกัน
โดยวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 68 ในขณะที่ตนเองนอนอยู่ในห้องก็ได้ยินเสียง 2 สามีภรรยาทะเลาะกันอยู่ในบ้าน แต่ตนเองไม่ได้ออกมาดู เพราะทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นประจำ สักพักตนเองออกมาจากบ้าน ก็เห็นหลานสะใภ้ออกจากบ้านไปพร้อมลูกชายวัย 4 ขวบ ส่วนหลานชายวัย 2 เดือนนอนอยู่ในบ้าน จากนั้นตนเองก็ออกไปนั่งพักด้านนอก
ต่อมาเมื่อวานนี้ก็เห็นว่าหลานนอนเล่นกอดลูกอยู่โถงในบ้าน มีป้อนนมผงปกติ แต่ต่อมาช่วง 10 โมงได้ยินเสียงเด็กร้องก็นึกว่าร้องปกติ และเด็กร้องอีกรอบช่วง 11 โมง ก็ไม่ได้เอ๊ะใจ เพราะไม่คิดว่าคนเป็นพ่อแท้ๆจะทำร้ายลูกตัวเอง แต่พอผ่านไป 1 ชม. หรือช่วงเที่ยง ก็เห็นหลานชายขี่รถมือเดียว คาดว่าอุ้มลูกไปด้วยนั้น ก็ขี่รถออกไปและไม่กลับมา
จากนั้นตนเองรู้ว่าเหลนคนเล็กอายุ 2 เดือน ได้รับบาดเจ็บ จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ทำให้ตนเองตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก จึงได้สอบถามหลานของตัวเองว่า ได้ทำร้ายลูกหรือไม่ แต่หลานปฏิเสธ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นอนไม่หลับ วิตกกังวล สงสารเหลนที่นอนเจ็บอยู่โรงพยาบาล พร้อมอยากบอกว่าหลานคนเราทำผิดก็ยอมรับ แต่อยากให้หลานไปบำบัด
คุณตาฮวด บอกอีกว่า ตนเองยอมรับว่าหลาน และลูกสะใภ้เสพสารเสพติด ตนเองพยายามห้ามหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ฟังจนทำให้ตนเองท้อใจ และเสียใจ ที่ผ่านมาการให้มาอยู่ที่บ้านก็เพราะห่วงเหลน ซึ่งช่วงนั้นทั้งคู่ออกไปใช้ชีวิตกันเอง แต่พอรู้ว่า ตั้งครรภ์ ประกอบกับที่พักอาศัยน้ำท่วม ไม่มีน้ำไฟใช้ จึงให้กลับมาอยู่อาศัยที่บ้านหลังเดียวกันกับตน จนเหลนชายได้คลอดก่อนกำหนดและนอนโรงพยาบาลนานถึง 2 เดือน ทำให้สุขภาพก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่แล้วด้วย
สำหรับตนยืนยันว่าพื้นฐานหลานชายเป็นเด็กดีคนหนึ่ง แต่นิสัยเปลี่ยนเพราะยาเสพติด ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเสียงนี้ไปถึงหลานชายก็อยากจะบอกว่า ผิดก็ต้องรับผิด ไปชดใช้กรรม และเลิกสิ่งไม่ดี “น้องกายเอ้ยอะไรไม่ดีก็เลิกสะ” ซึ่งในช่วงท้ายคุณตาฮวดร่ำไห้ เสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นอย่างมาก
ขณะที่ผอ.กฤษณะ ภุมมา หัวหน้า รพ.สต.บางพระ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด รพ.หลวงพ่อเปิ่น ในฐานะเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลนายกาย ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ป่วยบำบัดยาเสพติด เข้าเยี่ยมคุณตาฮวด (นามสมมติ) ตาของนายกาย หรือทวดของเด็ก
โดยเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า นายกายพ่อเด็ก เป็นผู้ป่วยบำบัดยาเสพติดในปีงบประมาณ 68 ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ติดยาเสพติดขั้นต้น ยังไม่ใช่ภาวะจิตเวช แต่อยู่กลุ่มที่ถูกสิ่งกระตุ้นก็มักจะมีอารมณ์รุนแรง ซึ่งนายกาย ได้รับการบำบัดแบบไม่ต้องใช้ยา แต่เน้นการพูดคุยดูแลจิตใจ เพราะนายกายยังสื่อสารและประกอบอาชีพได้
ทั้งนี้นายกาย ได้รับบำบัดในช่วงแรกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และปรับระยะห่างขึ้นเป็น 2 สัปดาห์ต่อครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้คุยกับนายกาย แต่ได้คุยกับภรรยาหรือแม่เด็กบอกว่ามึเหตุให้ทะเลาะกัน เพราะแม่เด็กต้องการไปเยี่ยมลูกติด ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ประสบอุบัติเหตุนอน รพ. แต่นายกายไม่ให้เธอไปจึงมีเหตุให้ทะเลาะวิวาท ก่อนเธอทิ้งลูกไว้กับนายกา ซึ่งมองว่านี่น่าจะเป็นแรงการะตุ้นให้นายกายทำร้ายลูกตัวเอง
Advertisement
