
วันที่ 28 พ.ย. 68 นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สั่งการให้ลงสำรวจพื้นที่ชั้นในของ อ.หาดใหญ่ หลังน้ำลดลงเกือบ 100% แล้ว ซึ่งวันนี้จะนำถุงยังชีพเข้าไปมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชั้นในและซอกซอยที่เข้าถึงยาก และในส่วนกระทรวงคมนาคมได้นำถุงยังชีพมาสนับสนุนเพิ่มเติมอีก
สำหรับการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ทุกหน่วยงานและกระทรวงต่าง ๆ ได้ระดมตั้งวอร์รูมและศูนย์ประกอบอาหาร โดยสามารถผลิตข้าวกล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมทั้งจิตอาสาจากทั่วประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนแผนฟื้นฟูและเยียวยาจากรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบฉุกเฉิน 100 ล้านบาทต่อจังหวัด ใน 9 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการอนุมัติ นอกจากนี้จะมีมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัย และจะเริ่ม Big Cleaning ล้างเมืองและรีบเก็บขยะในวันนี้ รวมถึงซ่อมแซมระบบไฟฟ้า และสายไฟที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
"วันนี้ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง ระดมลงมาอยู่ในพื้นที่หาดใหญ่ และที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้อยู่เฉย พยายามหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะมาช่วยเหลือ เยียวยาโดยไม่ทอดทิ้งพี่น้องผู้ประสบภัย ซึ่งตัวผมจะยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลและช่วยเหลือต่อไป" นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ ยังชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดจากถนนหลัก 2 เส้นในหาดใหญ่ คือ ถนนบายพาสสนามบิน-ปัตตานี เปรียบเสมือนสันเขื่อนที่กั้นน้ำจาก อ.สะเดา แต่มีการเจาะช่องเพิ่มหลังปี 2553 ทำให้น้ำบางส่วนเข้าพื้นที่ชั้นในได้มากขึ้น และถนนลพบุรีราเมศวร์
ซึ่งสร้างภายหลัง กลายเป็นแนวกั้นน้ำด้านออก ทำให้น้ำไหลออกสู่ทะเลสาบสงขลาช้าลงในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงกำลังสำรวจถนนลพบุรีราเมศวร์ เพื่อหาทางเปิดช่องทางให้น้ำระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลาหรือคลองอู่ตะเภาได้เร็วขึ้น โดยต้องประสานกับกรมชลประทานและตรวจสอบเขตพื้นที่เอกชนอย่างรอบคอบ
Advertisement