
วันนี้ (29 พ.ย.) เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย หรือ ศป.กฉ. พร้อมด้วยนายสิริพงศ์ อังคสกลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉินอุทกภัย และนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉินอุทกภัย ร่วมกันแถลงความคืบหน้า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินการของ ศป.กฉ. จากการดำเนินการเมื่อวานที่ผ่านมา (27 พ.ย.) ถือว่าประสบความสำเร็จในการดำเนินการเป็นอย่างสูง โดยการนำข้อมูลที่ร้องขอส่งให้ส่วนหน้า และเข้าช่วยเหลือผู้ที่ยังตกค้างอยู่จำนวน 1,934 เคส สามารถช่วยออกมาได้ 1,734 เคส คิดเป็น 89% แต่สาเหตุที่ได้ไม่ครบ 100% เนื่องจากบางกรณีมีการย้ายออกไปแล้ว หรือเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้น ไม่มีความประสงค์ที่จะย้ายไปยังศูนย์อพยพ
สำหรับภาพรวมความสามารถในการดูแลศูนย์พักพิงวันนี้ รวมยอดสะสมทั้งสิ้น 14,160 ราย และซึ่งความยังสามารถรองรับได้ 20,840 คน และมีความสามารถในการผลิตอาหาร ชุดเพื่อดูแลในศูนย์พักพิงและแจกจ่ายไปให้กับประชาชนที่ตกค้างในพื้นที่ สามารถผลิตได้ 92,320 ชุด และมีการเพิ่มกำลังผลิตในวันนี้ด้วย
นายสิริพงศ์ รายงานจำนวนผู้เสียชีวิต จากกรณีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจด้วยอีกครั้ง พร้อมกับเน้นย้ำอีกครั้งว่า ในการนำเสนอยอดผู้เสียชีวิตจะมีการอัพเดทในทุกวัน ดังนั้นการนำข้อมูลที่นำเสนอเมื่อวันแรก และวันที่ 2 มาใช้ในเชิงเปรียบเทียบ ถือเป็นการนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ จึงขอความกรุณาให้ระมัดระวัง
จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของทั้งภาคใต้ รวม 145 ราย โดยแบ่งเป็น จ.นครศรีธรรมราช 9 ราย จ.พัทลุง 4 ราย จ.สงขลา 110 ราย จ.ตรัง 2 ราย จ.สตูล 5 ราย จ.ปัตตานี 6 ราย จ.ยะลา 5 ราย จ.นราธิวาส 4 ราย
จากการพิจารณาของกรมการโดยแพทย์และโดยฝ่ายนิติเวช มีความคิดเห็นว่าไม่สมควรที่จะแบ่งเคส ในกรณี 110 ราย ของสงขลาแล้ว ดังนั้นตั้งแต่วันนี้จะไม่มีการแบ่งเคสรายงาน ทุกคนถือว่าเสียชีวิตในห้วงเวลานั้นทั้งสิ้น ดังนั้นรายงานยอดผู้เสียชีวิตของจังหวัดสงขลาคือ 110 ราย
พร้อมย้ำว่า ขณะเวลารายงานสถานการณ์เวลานี้เวลา 15.00 น. ที่ได้แถลงยอดจำนวนผู้เสียชีวิต หากยอดใดเกิดหลังจากเวลานี้จะยังไม่ถือว่าเป็นยอดอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งกังวลว่าอาจจะเกิดความสับสนว่าในกรณีที่มีหน่วยงานอื่นนอกจากศป.กฉ.รายงานยอดสูงหรือต่ำกว่านี้ จะกลายเป็นข้อมูลไม่ตรงกัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งมารวมกันที่นี่ในทุกวัน เพราะฉะนั้นยอดที่ถูกต้องในเวลานี้คือ 110 ราย โดยการบูรณาการข้อมูลเรียบร้อยแล้วระหว่างตำรวจ นิติเวช และสาธารณสุข
นางสาวรัชดา กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลมีความพร้อมในการเข้าสู่โหมดฟื้นฟู ซึ่งการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือศูนย์พักพิงยังคงดำเนินการต่อและรวดเร็วขึ้น และขอให้สบายใจ ได้มีการขนส่งลำเลียงสิ่งของที่แต่ละภาคส่วน ได้บริจาคเข้ามา โดยส่งต่อทางอากาศในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยวันนี้ไม่ใช่มีแค่เครื่องบิน C130 เท่านั้น ที่ส่งวิ่งของเครื่องอุปโภคต่างๆ แต่ยังมีเครื่องบินแอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ จากหน่วยงานต่างๆและภาคเอกชน ที่อาสา ขนของไปช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย อย่างเช่น แอร์เอเชียหรือบริษัททำการขนส่งพัสดุ ที่อาสาจะเป็นตัวกลางนำของบริจาคไปให้ในพื้นที่ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ดำเนินการงดเว้นค่าบริการสนามบินให้ด้วยเพื่อขอบคุณภาคเอกชนที่มีน้ำใจตรงนี้
สำหรับประชาชนที่ยังอยู่ในบ้านเรื่องการแจกจ่ายอาหาร จะมีการดำเนินการกระจายอาหารไปยังบ้านเรือน ตึกแถวต่างๆต่อไปอย่างเต็มที่
ส่วนการสูบน้ำออกจากพื้นที่ รัฐบาลได้ประสานเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 280 เครื่องพร้อมประจำในพื้นที่ โดยหลักจะอยู่พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพร้อมกระจายไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการระดมเครื่องสูบน้ำ มาจากทุกภาคส่วน และการระบายน้ำต้องดูสภาพภูมิประเทศตรงนั้นด้วยโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้
ทั้งนี้ในเรื่องการขนส่งหลายเรื่องสามารถทำได้มากขึ้น โดยกระทรวงคมนาคม ได้สำรวจความเสียหายถนน ที่ยังผ่านไม่ได้ 60 เส้นทาง และผ่านได้ 337 เส้นทาง โดยได้ส่งกำลังคนไป ฟื้นฟูและดำเนินการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่วนการคมนาคมในรูปแบบอื่น ในส่วนของ บขส.เส้นทางที่สามารถเปิดเดินรถมีทั้งหมด 9 เส้นทางกรุงเทพฯ - สงขลา กรุงเทพฯ-หาดใหญ่
กรุงเทพฯ - ยะลา
กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก
กรุงเทพฯ-เบตง
กรุงเทพฯ-นาทวี
กรุงเทพฯ-สตูล
กรุงเทพฯด่านนอก
กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์
ในส่วนที่ยังไม่สามารถให้บริการได้คือกรุงเทพฯ-ตรังสตูลและกรุงเทพฯ-ปัตตานี แต่เชื่อว่าในเร็ววันนี้คงจะสามารถให้บริการได้ ขณะที่เส้นทางการเดินทางรถไฟสามารถเปิดได้แล้ว 12 จุดแต่ยังมีอุปสรรคอยู่ 27 จุด
นางรัชดา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการฟื้นฟูสิ่งที่รัฐบาลต้องการสร้างความสบายใจให้กับประชาชนคือเรื่องของน้ำไฟ ในส่วนของการประปาที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการจ่ายน้ำได้ แต่วันนี้สามารถดำเนินการติดตั้งเครื่องจักร ที่จะผลิตน้ำแล้ว และจะนำเครื่องส่งน้ำ สำหรับน้ำดื่ม-น้ำประปา 16 คันรถ และรถบรรทุกน้ำจากกรมทรัพยากรบาดาลน้ำเข้าไปในพื้นที่ด้วย
สำหรับการไฟฟ้าภูมิภาค เริ่มมีความพร้อมในการจ่ายกระแสไฟ แต่ยังไม่สามารถจ่ายกระแสไฟไปยังทุกครัวเรือนได้ เพราะยังคงต้องมีการประเมินสถานการณ์พื้นที่ตรงนั้นก่อนหากปล่อยกระแสไฟฟ้าไปแล้วจะปลอดภัยหรือไม่ จากเดิมที่เดือดร้อนในเรื่องไฟฟ้า 7 แสนครัวเรือน วันนี้จำนวนครัวเรือนที่เดือดร้อนเหลือเพียง 1.6 แสนครัวเรือนและคิดว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้น่าจะดำเนินการจ่ายกระแสไฟให้บ้านทุกหลังได้ สำหรับสัญญาณโทรศัพท์สามารถใช้ได้หลายพื้นที่ แต่ยังไม่ครบ 100% ยังติดในเรื่องไฟฟ้าเช่นเดียวกัน แต่ทางกสทช.ได้ประสานมาและอยากให้สื่อมวลชนทั่วไปเผยแพร่ต่อเพื่อเป็นการบรรเทาความกังวลของญาติพี่น้อง ที่อยู่ในต่างพื้นที่หรือประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการใช้โทรศัพท์
ซึ่งคนที่อยู่ในระบบเติมเงิน แต่ช่วงนี้เติมไม่ได้ทางกสทช.แจ้งว่าได้ประสานกับ Operator ทุกบริษัทแล้ว ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินจะขยายระยะเวลาการใช้งานออกไป 30 วันหรือเติมช้าไปอีก 1 เดือน จะไม่ถูกตัดสาย ผู้ใช้ระบบรายเดือน ก็ขยายระยะเวลาชำระค่าบริการออกไปอีก 1 เดือนเช่นกัน และที่จะทำให้สบายใจอีกคือผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งระบบเติมเงินและระบบรายเดือนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมสามารถที่จะใช้โทรศัพท์ฟรี 100 นาทีและอินเตอร์เน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายนนี้เป็นเวลา 15 วัน ถือเป็นการช่วยเหลือจากทางกสทช.และต้องขอบคุณ Operator ด้วย
อย่างไรก็ตามในเรื่องขยะ นายกรัฐมนตรีได้กำชับแผนบริหารจัดการขยะ ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน โดยพื้นที่ที่มีความพร้อมสถานการณ์น้ำลดลง ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดแล้ว และอาสาสมัครเป็นอีกกลุ่มสำคัญที่ภาคประชาชนทำร่วมกับภาครัฐ โดยกรมการปกครองได้นำสมาชิกอาสารักษาดินแดนเข้าไป cleaning ในจุดที่ทำได้เช่นวงเวียนน้ำพุหรือชุมชนคลองเตย และช่วงเย็นนี้จะมีอาสาสมัครของกรมการปกครองเข้าไปอยู่ในพื้นที่อีก 2,000 คน ฉะนั้นการดำเนินการในเรื่อง Big cleaning สามารถทำได้ในวันพรุ่งนี้ในจุดที่เริ่มต้นได้ก็จะดำเนินการทันที
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนข่าวลือที่มีการโพสต์ว่าพายุโคโตะ กำลังจะเข้ามาในประเทศไทย และทำให้พี่น้องภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือดร้อน อันนี้ได้รับแจ้งจากกรมอุตุนิยมวิทยาแล้วว่าพายุโคโตะ เข้ามาทางเวียดนาม แต่ไม่กระทบประเทศไทย ฉะนั้นในวันนี้ขอเน้นย้ำเรามีความพร้อมในเรื่องการบริหารจัดการเข้าสู่โหมดของการฟื้นฟูและหน่วยงานในพื้นที่ได้ประสานงานกัน หากภาคเอกชนไหนอยากจะส่งคนลงไปช่วยหรือลงไปถึงพื้นที่แล้วมีข้อคำถามก็สามารถส่งคำถามมาที่ศูนย์ส่วนกลาง ได้ที่ 1111 หรือศูนย์ประสานงาน ศป.กฉ.ในพื้นที่
ขณะที่นายภราดร กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้มีการประชุม ศป.กฉ. ได้สอบถามความคืบหน้าของแต่ละหน่วยงาน ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยหน้าและ เป็นการชี้แจงรายละเอียดความคืบหน้าต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชนได้รับฟังและรับทราบและถือโอกาสขอบคุณทุกหน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ที่ได้ช่วยกันและร่วมมือกันกับรัฐบาลในการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวันนี้เราเปลี่ยนโหมดจากการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งก็ยังจะต้องดำเนินการต่อไป แต่มีการเพิ่มโหมด การฟื้นฟูเยียวยา เร่งทำให้เมืองกลับมาอยู่ในสภาพที่เป็นปกติให้ได้เร็วที่สุด รัฐบาลมีมาตรการในการฟื้นฟูเยียวยามากมาย ซึ่งจะนำมานำเสนอในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ นายสิริพงศ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชน ว่า สำหรับประเด็นในวันนี้ อยากจะขอความกรุณากับสื่อมวลชน ว่าในวันนี้มีหลายประเด็น มีทั้งประเด็นที่เป็นเรื่องเนื้อหา มีทั้งประเด็นที่เป็นสีสัน อยากจะให้แยกออกจากกัน อยากให้นำข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนไปสู่พี่น้องประชาชน ขอฝากด้วย
เมื่อถามว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้เกิดการเรียกร้องจากส่วนให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก ซึ่งหลังจากจบคำถามนี้ทุกคนนิ่งไประยะหนึ่ง ไม่มีใครตอบ
ขณะที่นายภราดรก้มหน้านิ่ง จนทำให้นายสิริพงศ์ เอื้อมมือไปสะกิดที่แขนนายภราดร ผู้สื่อข่าวจึงกับเอ่ยปากว่าใครจะเป็นคนตอบ
ก่อนที่นายสิริพงศ์ จะกล่าวว่า ในท้ายที่สุดรัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เราดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดหลายอย่าง ถามว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ในส่วนของการดำเนินการ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลเสียใจ แต่ต้องเรียนว่าในกรณีน้ำท่วม มีอยู่หลายอย่างที่จะต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการให้ความช่วยเหลือ การฟื้นฟู และการเยียวยา แน่นอนว่า มีทั้งคนพอใจและคนไม่พอใจ แต่เวลาจากนี้ไปก็เป็นเวลาที่จะพิสูจน์ เมื่อปัจจัยอื่นๆควบคุมได้ ก็จะเป็นข้อพิสูจน์ในการบริหารจัดการของรัฐบาล ซึ่งในเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี น่าจะมีการพูดถึงในอนาคตอันใกล้
เมื่อถามว่าเงินเยียวยา 9,000 บาทจะถึงมือประชาชนเมื่อใด นายภราดรกล่าวว่า เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อครั้งที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับประชาชนที่มีบัญชีธนาคารออมสิน และกรุงไทย สามารถที่จะโอนเงินได้ทันที ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่า พื้นที่หาดใหญ่เป็นที่ทราบว่าน้ำท่วม 100% ในเรื่องของการทำประชาคม หรือขั้นตอนอื่นๆก็สามารถยกเว้นได้ และสามารถโอนเงินให้กับประชาชนได้ทันที ซึ่งวันนี้ทางสำนักงบประมาณได้โอนเงินให้กับทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือ ปภ. เรียบร้อยแล้วดังนั้นทางปภ.สามารถโอนเงินให้กับประชาชนได้ทันที
หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ประกาศขอรับบริจาคไม้กวาดทางมะพร้าว วันนี้ได้ครบแล้วหรือไม่ หรือมีสิ่งของอะไรที่ยังขาดเหลือต้องการขอรับบริจาคเพิ่ม
นายภราดรกล่าวว่า ได้รับการประสานมาจากหน่วยหน้า ว่าเมื่อน้ำลงแล้วสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ คือ Big cleaning Day ซึ่งต้องระดมทุกสรรพกำลังของภาครัฐและจิตอาสา ซึ่งขณะนี้ทาง DGA ได้เปิดช่องทางรับสมัครอาสาสมัคร และมีผู้สมัครเข้ามาแล้ว เกือบ 1,000 ราย และเชื่อว่าจะมีมาสมัครอีกหลายช่องทาง ซึ่งเมื่อวานนี้ตนได้พูดถึงไม้กวาด แต่ก็ยังต้องมีส่วนอื่นเช่น น้ำยาทำความสะอาดทั้งหลาย ถุงมือยาง รองเท้ายาง ยาน้ำกัดเท้า ซึ่งทางส่วนหน้าได้ร้องขอมา โดยได้มีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุข และเอกชน เพื่อนำส่งสิ่งเหล่านี้ไป ผ่านเที่ยวบินวันนี้ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนในทุกสิ่งที่ร้องขอมา สำหรับการขนส่งสิ่งจำเป็น ที่ได้รับมาจากการช่วยเหลือของประชาชน จะมีช่องทางของภาครัฐ กองทัพและภาคเอกชน ที่มาร่วมอำนวยความสะดวก สิ่งของที่ประชาชนมีความประสงค์ที่จะช่วย
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะแจ้งเตือนประชาชนอย่างไร เนื่องจากมีมิจฉาชีพเปิดรับบริจาคและสิ่งของอาจไปไม่ถึงปลายทาง นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่ที่ประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ดังนั้นการจะดำเนินการใดที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่หวังดี หากมีการตรวจพบหรือร้องเรียน เราก็สามารถจับกุมได้ และจะถูกดำเนินการถึงที่สุด
Advertisement