ฮุนเซน ลั่น ไทยกำลังยั่วยุให้เกิดการปะทะ
ฮุนเซน ลั่น ไทยกำลังยั่วยุให้เกิดการปะทะ แต่ตัวเองรู้ดีว่าปะทะแล้ว จะมีแต่ความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ยืนยันเดินตามยุทธศาสตร์ "เงียบแต่ไม่นิ่ง "
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮุน เซน ได้ตอบโต้ในวันนี้ (17 พฤศจิกายน 2025) ต่อผู้ที่ต้องการให้กัมพูชามีการปะทะอาวุธ ภายหลังเหตุการณ์ที่ทหารไทยยิงประชาชนชาวเขมรที่บ้านเปรยจัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย ในประเด็นนี้ ฮุนเซน ได้อธิบายว่า หากกัมพูชาตอบโต้ด้วยอาวุธ จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกมากทั้งฝ่ายกัมพูชาและไทย และข้อตกลงหยุดยิง รวมถึงข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ จะถูกทำลายลงด้วย
การกล่าวของฮุน เซน เกิดขึ้นในโอกาสที่ ฮุนเซน เป็นผู้แทนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่สามัญประจำปีของคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 33
ฮุนเซน ได้กล่าวไว้ดังนี้ "เรื่องที่บ้านเปรยจัน พวกเขาต้องการให้เราปะทะอาวุธทันที ตอนนี้ถ้าปะทะอาวุธทันที ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร โปรดช่วยตอบ พวกเขากำลังยุยงให้เราปะทะอาวุธ พ้นจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง แม้แต่หนังสติ๊กพวกเขาก็ยิง กลางคืนก็ยิงเกือบทุกคืน แต่ทางรัฐบาลได้แนะนำไม่ให้ตอบโต้"
ฮุน เซน ได้อธิบายถึงสาเหตุที่กัมพูชายึดมั่นในการอดทนและไม่ตอบโต้ เนื่องจากทั้งสองประเทศได้บรรลุการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีทั้งมาเลเซียและสหรัฐอเมริกาเป็นพยาน และมีจีนกับมิตรประเทศต่าง ๆ ได้รับรู้ด้วย หากกัมพูชาตอบโต้เกินเหตุ จะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางวาจา
กรณีที่ทหารไทยกราดยิงใส่ประชาชนชาวเขมรผู้บริสุทธิ์ที่บ้านเปรยจัน ตำบลโอรบีเจียน อำเภอโอรเจา จังหวัดบันเตียเมียนเจย เกิดขึ้น 2 ครั้ง เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ประชาชนชาวเขมรเสียชีวิต 1 ราย และประชาชนอีก 3 รายได้รับบาดเจ็บ ปัญหานี้ยังส่งผลให้ประชาชนประมาณ 500 ครอบครัวต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย
กัมพูชาได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่โหดร้ายของทหารไทยดังกล่าว และเรียกร้องให้ฝ่ายไทยรับผิดชอบต่อการปะทะอาวุธที่เกิดขึ้นภายหลังข้อตกลงสันติภาพที่ผู้นำของทั้งสองประเทศได้ลงนามไว้ โดยมีสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียเป็นพยาน
ทันทีที่เกิดเรื่อง ฮุน มาเนต ก็ได้โทรศัพท์หารือกับฮุนเซน โดยได้ชี้แจงว่า กรณีที่บ้านเปรยจันไม่มีการปะทะอาวุธต่อเนื่อง คือหยุดอยู่เพียงแค่นั้น ทั้งสองได้เลือกที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ "เงียบแต่ไม่นิ่ง " ต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
ฮุน เซน ได้กล่าวอีกว่า"คนอื่นพูดว่า พวกเขา (ทหารไทย) ยิงสังหารประชาชนแล้ว ยังคงนิ่งเฉยอีก แต่ผมขอถามกลับไปว่า ถ้าหากเราปะทะอาวุธ คนที่ตายจะหยุดอยู่แค่ 1 ราย และบาดเจ็บ 3 รายนี้หรือไม่ มันอาจจะเกินกว่านั้น ไทยก็อาจจะมีคนตายมาก เราก็อาจจะตายไปจนถึงสีโสภณนู่น พูดกันให้ชัดเจนตรงนี้ เราไม่ได้กลัวการสู้รบ แต่ถามว่าสู้รบไปแล้วจะได้ผลตอบแทนอะไรกลับมา ทำลายข้อตกลงหยุดยิง ทำลายคำประกาศสันติภาพ"
คนเหล่านั้นทำได้เพียงพูดอยู่ข้างนอกเท่านั้น แต่พวกเขาไม่ได้ประณามผู้ที่ยิงประชาชนชาวเขมรเสียชีวิตและบาดเจ็บเลย
ภายหลังเหตุการณ์ที่ทหารไทยยิงสังหารประชาชนชาวเขมร ผู้นำสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียก็ได้เข้ามาแทรกแซงด้วย ผู้นำทั้งสองได้หารือทางโทรศัพท์กับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ยืนยันว่า กัมพูชายังคงรักษาจุดยืนในการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี และโดยใช้กลไกที่มีอยู่และได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2025 เพื่อนำไปสู่การยุติความขัดแย้งชายแดนและสร้างสันติภาพระหว่างสองประเทศ
สหรัฐอเมริกาได้ประกาศระงับการเจรจาภาษีศุลกากรกับประเทศไทย จนกว่าฝ่ายไทยจะปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพกับกัมพูชาอย่างสมบูรณ์ด้วย
Advertisement
