Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รองประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกโรงเอง ขึ้นโพเดียมถล่มไทยกลางเวทีใหญ่ IPU

รองประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกโรงเอง ขึ้นโพเดียมถล่มไทยกลางเวทีใหญ่ IPU

21 ต.ค. 68
17:41 น.
แชร์

กัมพูชาแผลงฤทธิ์! รองประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกโรงเอง ขึ้นโพเดียมถล่มไทยกลางเวทีใหญ่ IPU โวยเจอสงครามจิตวิทยา เปิดเสียงหลอนเวลาค่ำคืน

ผู้แทนรัฐสภากัมพูชา นาย อุช โบฤทธิ์ รองประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นเบอร์ 2 รองจาก "ฮุน เซน" ขึ้นกล่าวในเวที General Debate ในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 151 ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นายอุช โบฤทธิ์ ไม่ปรากฏตัวเลยในห้องประชุมต่างๆ ของ IPU ตลอด 2 วันที่ผ่านมา รวมถึงเวที General Debate ซึ่งเป็นเวทีใหญ่วันแรก เมื่อวานนี้ (20 ต.ค. 2568) ที่เปิดให้ประธานรัฐสภาจากประเทศต่างๆ ได้อภิปรายต่อที่ประชุมคนละ 6-7 นาที ซึ่ง "ประธานวันนอร์" วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาของไทย ขึ้นพูดในลำดับที่ 17 ในลิสต์ A โดยไม่ปรากฏว่า นายอุช โบฤทธิ์ มาร่วมรับฟังด้วยแต่อย่างใด มีเพียงสมาชิกรัฐสภาของกัมพูชามานั่งสังเกตการณ์

ทั้งนี้ นายอุช โบฤทธิ์ มีคิวพูดในลิสต์ B เพราะเป็นรองประธานวุฒิสภา ไม่ใช่ประธาน จึงถูกจัดคิวพูดในวันที่ 2 ของเวที General Debate

การขึ้นกล่าวปราศรัยของ นายอุช โบฤทธิ​์ เป็นไปตามความคาดหมายของ "ทีมไทยแลนด์" นั่นก็คือฉวยโอกาสโจมตีไทย จากปัญหาพิพาทตามแนวชายแดนด้วยข้อมูลบิดเบือนเข้าข้างตัวเอง

นายอุช โบฤทธิ์ เริ่มกล่าวด้วยการแสดงไมตรีจิต โดยขอบคุณผู้แทนจากไทยที่มีส่วนร่วมในสมัชชาสหภาพรัฐสภา และยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวทีนานาชาติ พร้อมย้ำว่า กัมพูชายึดมั่นสันติภาพ ความปรองดอง และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกข้ออย่างซื่อสัตย์

แต่แล้ว นายอุช โบฤทธิ์ ก็วนมาพูดถึงปัญหาพิพาทระหว่างไทยกับมาเลเซีย โดยอ้างว่า หากประเมินสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของการประชุม IPU หนนี้ จะพบว่ามาตรฐานมนุษยธรรมถูกละเมิดอย่างรุนแรงจากปัญหาตามแนวชายแดนของกัมพูชา ซึ่งมีปัญหามาเนิ่นนาน

"กัมพูชาไม่คิดจะเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น จึงขอร้องประเทศไทย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านของเรา ให้รับทราบเรื่องนี้ด้วย"

รองประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวต่อว่า สงครามระหว่างประเทศของเรา (หมายถึงไทยกับกัมพูชา) เรื่องพรมแดนล้วนมีขอบเขตตามที่กำหนดโดยกฎหมาย ถูกควบคุมโดยเครื่องมือระหว่างประเทศที่มีผลผูกพัน ตั้งแต่สนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ค.ศ.1904 ซึ่งมีแผนที่ประกอบเป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังมีสนธิสัญญาอีกหลายฉบับ ตลอดจนหลักกฎหมาย รวมถึงคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) ด้วย

หลักฐานยังถูกเขียนขึ้นโดยบันทึกข้อตกลงปี 2000 (MOU 2543) มีการตั้งกรรมาธิการร่วม รับผิดชอบทางด้านเทคนิคในการดำเนินการเรื่องเขตแดน

"น่าเสียดายที่ความขัดแย้งนี้ควรได้รับการพิจารณาตามเครื่องมือทางกฎหมาย รวมถึงอำนาจตุลาการที่ได้รับการยอมรับ" นายอุช​ โบฤทธิ์ ระบุ

ผู้แทนรัฐสภากัมพูชายังถือโอกาสนี้แสดงความชอบคุณประเทศจีน ประเทศมาเลเซีย และ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สำหรับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และมีการสร้างผลงานสำคัญขึ้นมา นั่นก็คือข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.

แต่แม้กระบวนการตามข้อตกลงจะมีความก้าวหน้า ทว่าบริเวณพรมแดนยังคงเปราะบาง ชาวบ้านกัมพูชายังคงถูกโยกย้าย ถูกปิดล้อม และถูกดดันให้ออกจากพื้นที่

ทหารกัมพูชา 18 คนยังถูกควบคุมตัว ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน

นอกจากนั้นยังมีปฏิบัติการจิตวิทยา ปล่อยเสียงแหลมดังในเวลากลางคืน ทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว แม้การกระทำเช่นนี้จะไม่ใช่การโจมตีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่ก็เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายข้อ โดยเฉพาะสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยไทยกระทำการฝ่ายเดียวเพื่อกำหนดข้อบังคับต่างๆ อ้างว่าเป็นการกระทำภายในประเทศของตน

นายอุช โบฤทธิ์ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า กัมพูชายอมรับไม่ได้ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดต่อมรดกโลก เพราะปราสาทพระวิหาร และปราสาทต่างๆ เป็นของกัมพูชา การส่งกำลังทหารเข้าไปก็เพื่อพิทักษ์ปราสาทของเรา เป็นพื้นที่ของกัมพูชา รวมถึงการวางอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ก็อยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา

อย่างไรก็ดี นายอุช โบฤทธิ์ พยายามกล่าวย้ำหลายครั้งว่า กัมพูชาเคารพต่อข้อตกลงหยุดยิง กฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาทุกฉบับ

เป็นที่น่าสังเกตว่า รองประธานวุฒิสภาของกัมพูชา พูดเกินเวลาไปมาก พูดจนเวลาหมด ทั้งๆ ที่บริเวณโพเดียมจะมีการติดไฟเตือนสีแดงเอาไว้ เมื่อเวลาหมดก็จะมีแสงเตือนขึ้นคล้ายๆ ไซเรน ปรากฏว่าการพูดของ นายอุช โบฤทธิ์ เกินเวลาไปนานมาก แสงไฟสีแดงเตือนถี่ๆ หลายรอบ แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจ

นอกจากนั้น ประธานการประชุมของสมัชชาสหภาพรัฐสภา ซึ่งเป็นสุภาพสตรี ก็ได้พูดขัดจังหวะ และแจ้งเตือนผ่านไมโครโฟนหลายครั้งว่า “เวลาหมดแล้ว" แต่ นายอุช โบฤทธิ์ ก็ไม่สนใจ พยายามพูดจนจบตามเนื้อหาที่เตรียมมา จนถูกสมาชิกชาติอื่นๆ ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ

หลังจาก นายอุช โบฤทธิ์ กล่าวจบ ปรากฏว่า ประธานที่ควบคุมเวทีสมัชชาสหภาพรัฐสภา ได้กล่าวตำหนิว่า เป็นการพูดที่ไม่เคารพเวลา ส่งผลกระทบต่อสมาชิกชาติอื่นๆ เพราะทุกคนก็อยากพูดเช่นเดียวกัน

Advertisement

แชร์
รองประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกโรงเอง ขึ้นโพเดียมถล่มไทยกลางเวทีใหญ่ IPU