นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเผชิญช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคม ระหว่างวันที่ 25–28 ต.ค. จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รวมถึงผู้นำอาเซียนหลายประเทศจะเข้าร่วม และทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอตัวเป็น “ตัวกลางเจรจา” ระหว่างไทยกับกัมพูชา
นายสิริพงศ์ระบุว่า นั่นหมายความว่า “จากนี้การเคลื่อนไหวของไทยต้องรอบคอบเป็นพิเศษ” เพราะผู้นำอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวทางที่ต้องการหาความร่วมมือ แต่ในขณะเดียวกันก็ถืออำนาจทางเศรษฐกิจไว้ในมือ เช่น มาตรการด้านภาษีที่ไทยได้รับการผ่อนปรน 19% ซึ่งยังเป็นเพียงแนวทางและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามท่าทีของแต่ละฝ่าย ดังนั้น ท่าทีของผู้นำประเทศมีความสำคัญมาก ภาพที่ปรากฏต่อสื่อนานาชาติย่อมส่งผลต่อการรับรู้ของโลก ซึ่งนี่คือบทบาทของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรักษาภาพลักษณ์และผลประโยชน์ของชาติ
โฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีนายอนุทิน ชาญวีรกูล “แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นอย่างยิ่ง” โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่อย่างรอบด้าน รวมถึงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในลักษณะที่อาจถูกอีกฝ่ายใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองระหว่างประเทศ
กรณีขแมร์ไทม์สอบถามถึงกระแสข่าวว่าไทยเตรียมผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่พิพาท จ.สระแก้ว ซึ่งจะถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายสิริพงศ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชี้แจงชัดว่า รัฐบาลไม่เคยกำหนดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ การประเมินสถานการณ์และการสื่อสารก่อนหน้านี้ มาจากผู้รับผิดชอบในพื้นที่โดยตรง ที่ตอนนั้นได้ประเมินสถานการณ์ไว้เช่นนั้น แต่เวลาต่อมา ปรากฏว่าทางกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ ไปจนถึงท่าทีจากนานาชาติที่จับจ้องไทยมากขึ้น แผนการต่างๆ ที่วางไว้ต้องมีการปรับ ซึ่งในพื้นที่ได้ประเมินแล้วว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ
“รัฐบาลยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย และเน้นให้ดำเนินการตามกฎหมาย จากเบาไปหนักตามลำดับ ภายใต้กรอบความยุติธรรมและมนุษยธรรม” นายสิริพงศ์กล่าว
โฆษกรัฐบาลกล่าวต่อว่า ฝ่ายกัมพูชาเองก็มีไม้ตายคือการใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา หรือหญิงตั้งครรภ์ เพื่อท้าทายจุดยืนด้านมนุษยธรรมของไทย ทำให้ไทยมีทางเลือกที่จำกัดมาก “เราต้องเข้าใจเกมของเขา และตั้งอยู่บนความรอบคอบ ดีกว่าปล่อยให้ปัญหาบานปลายจนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบในระยะยาว”
นายสิริพงศ์ทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลไทยยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และนายกรัฐมนตรีอนุทิน “ห่วงใยคนไทยทุกคน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชายแดน” พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภาคสนามอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายด้วยความสงบและปลอดภัย
Advertisement