เวลา 11.41 น. (30 ก.ย. 2568) ที่รัฐสภา พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนรับฟังการอภิปรายของสมาชิกโดยความตั้งใจ เนื่องจาก เชื่อว่าเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนและปัญหาที่นํามาเสนอเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนโดยแท้จริง ซึ่งตรงกับที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ประชาชนต้องมาก่อน
พล.ท.อดุลย์ เปิดเผยว่า ตนเองจบการศึกษาและรับราชการอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่จบ รวมถึงเป็นผู้บังคับหน่วยและตลอดแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งขณะเป็นผู้กองกําลังทหารพรานได้นํากําลังเข้าปะทะกับกัมพูชา ในปี 2554 ด้วยตัวเอง ฉะนั้นทราบดีว่าปัญหาชายแดนกัมพูชามีบริบทอย่างไร และมีการเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อนที่ตนเคยเจอมากมาย เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เกินกว่าที่กําลังทหารด้านความมั่นคงหน่วยเดียว จะแก้ไขปัญหาได้ตามลําพัง ยังคงมีมิติอื่นที่จะต้องมาพูดคุยกันแก้ปัญหา ให้เป็นมิติเดียวกัน
ด้านมิติการทูต หรือด้านการต่างประเทศ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ไปพูดที่เวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ (UNGA) เป็นข้อเท็จจริงที่เราต้องพูดและเป็นการพูดเชิงรุกที่เราต้องทํา ซึ่งถือว่าทําได้อย่างยอดเยี่ยมและต้องทําอย่างต่อเนื่อง
ส่วนมิติข้อมูลข่าวสาร เป็นเรื่องสําคัญมากเนื่องจากเป็นยุคของโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เข้ามา ซึ่งประเทศคู่ขัดแย้งของเราใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นโฆษณาชวนเชื่อ บ่อนทําลายบิดเบือนข้อมูลสร้างสถานการณ์ยั่วยุ เพื่อนําสถานการณ์ต่างๆไปใช้ในเวทีโลก ซึ่งหาก เชื่อและทําตามที่เขาบอก กําหนดให้คิด หรือยืนเคียงข้างโดยที่ไม่รู้ตัว นั่นถือเป็นการทําลายชาติของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางกัมพูชาต้องการให้เป็น
พล.ท.อดุลย์ ยังระบุถึงการที่ทหารกินมาม่าปลากระป๋องระหว่างปฏิบัติหน้าที่ว่าถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในช่วงที่สถานการณ์มีการเผชิญหน้ากัน เป็นสิ่งที่ตนผ่านมาเพราะไม่มีใครสามารถนําเสบียงไปส่ง ซึ่งความภาคภูมิใจไม่ได้อยู่ที่การกินอาหารดีๆ แต่อยู่ที่การปกป้องอธิปไตยของชาติ การรับใช้ชาติ ไม่มีใครไปเรียกร้องอาหารดีๆ ในช่วงสถานการณ์แบบนั้น
ด้านมิติเศรษฐกิจ เรากดดันประเทศคู่ขัดแย้งด้วยการปิดด่านชายแดน ซึ่งเป็นบ่อนการพนันทุกบ่อนในพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสระแก้ว บ่อนเหล่านี้ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ยังเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับหน่วยทหารในพื้นที่ เชื่อว่าหากไม่มีบ่อนอีกไม่นานการส่งบํารุงจะหมด เงินไม่มีซื้อกระสุน น้ำมัน อาหารการกินอยู่ลำบาก อย่างไรก็ตาม การปิดด่านส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่ค้าขายบริเวณชายแดนส่งสินค้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ช่วยกันได้ คนไทย 70 กว่าล้านคน จะต้องช่วยกันซื้อ
ปัจจุบันสงครามไม่ใช่สงครามแบบเดิม แต่เป็นสงครามรูปผสมแบบใหม่ ผสมผสานกันระหว่างกำลังทหาร และที่ไม่ใช่กำลังทหาร ที่เรียกว่า Hybrid warfare เช่น การเดินสายบิดเบือนข้อเท็จจริง ยั่วยุไม่ทำตามข้อตกลง การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC) ไทย - กัมพูชา การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย - กัมพูชา และการเจรจาในทุกระดับ รวมถึงไปเล่นบทเหยื่อในเวทีโลก
"ผมเข้าใจในความอึดอัดของพี่น้องประชาชน มึงทำไมไม่ตายกันสักที ท่านใจเย็น เพราะความอดทนมีขีดจำกัด อยู่แล้ว เราคงไม่ต้องมารบกันในที่นี้ แต่การรบกันไม่ใช่เรื่องยาก อาชีพทหารไม่เหมือนอาชีพนักธุรกิจ ถ้าเป็นธุรกิจ ขาดทุนกำไรปีหน้าเริ่มใหม่ พวกผมทหาร แนะนำให้คืออธิปไตยของชาติ ตาย บาดเจ็บ ลูกเมียอยู่ลำบาก นี่เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ ขอให้ความเชื่อมั่นว่ากองทัพจะไม่ยอมโดยเด็ดขาด แผ่นดินไทยต้องเป็นของไทย เปลี่ยนแปลงไม่ได้"
พล.ท.อดุลย์ ยังกล่าวอีกว่า อยากขอกำลังใจฝากไปถึงทหารที่อยู่ชายแดนหากเห็นคลิปอย่าบอกว่า ทำไมไม่ดูแลลูกน้อง ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจ และยืนยันว่า "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด"
Advertisement