22 ส.ค. 68 เวลา 16.00 น.ทางคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวประจำประเทศไทย IOT นำโดย พลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Brigadier General Samsul Rizal bin Musa) ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาเลเซีย ประจำกรุงเทพฯ และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจากประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศไทย 8 ประเทศ ลงพื้นที่ บ้านหนองจาน ในอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อสังเกตการณ์การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และรับฟังข้อมูลผลกระทบโดยตรงจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูล และหลักฐาน นำเรียนต่อหน่วยเหนือของแต่ละประเทศ
โดยที่บ้านหนองจาน เป็นพื้นที่ที่ไทยถูกกัมพูชารุกล้ำที่ดิน และฝ่ายไทยได้ทำการล้อมรั้วลวดหนามไว้ พร้อมกับนำสแลนดำมาขึงตลอดแนว และตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอย่างเข้มงวด
ซึ่งระหว่างที่คณะทูตเดินเท้าเข้าไป ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ก็ได้อธิบายถึงสภาพพื้นที่ให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้ฟัง ซึ่งระหว่างนั้นทาง พลจัตวา ซัมซุล ได้สอบถาม ถึงข่าวลือที่ว่ามีการไปรื้อบ้านจากกัมพูชาจริงหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงว่าไม่จริง
จากนั้น ก็ได้อธิบายให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เห็นว่า พื้นที่บ้านหนองจาน เป็นของพื้นที่ของไทย ที่ถูกกัมพูชารุกล้ำ โดยอยู่ระหว่างหลักเขตที่ 46 และ 47 และนับจากด้านหลังสแลนดำไปอีก 250 เมตร จึงเป็นพื้นที่ของกัมพูชา
ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่การสู้รบภายในของกัมพูชาเมื่อปี 2518 ถึง 2522 จึงมีการอพยพของชาวกัมพูชาเข้ามาอยู่ในบริเวณดังกล่าว และมีการตั้งเป็นศูนย์อพยพแคมป์ 511 แต่เมื่อการสู้รบสงบ กัมพูชาบางส่วน กลับไม่กลับประเทศ แต่มีการขยายครอบครัว และรุกล้ำ จนล่าสุดในการตั้งจุดตรวจควบคุมของ ของกัมพูชา
โดยรอบก็มีบ้านที่ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยปลูกอยู่ประมาณ 10 หลัง และมีการลักลอบมาตั้งจุดตรวจ ซึ่งขณะนี้ไม่มีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว โดยส่วนใหญ่เป็นครอบครัวของทหารกัมพูชาที่เข้ามาอาศัย และเข้ามารุกล้ำอยู่อาศัย
ส่วนรอบๆ เดิมเคยเป็นฐานปฏิบัติการของกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามา ทางไทยจึงได้รื้อถอนออกไป
จากนั้นคณะผู้สังเกตการณ์ก็ได้เดินไปตรวจสอบบริเวณจุดแนวสแลน ลวดหนามและสแลน เพื่อสังเกตการณ์ โดยทีมข่าวสังเกตเห็นว่า จุดนี้ทางหลังแนวรั้ว มีชาวกัมพูชากลุ่มหนึ่งมารวมตัว ขณะที่คณะผู้สังเกตการณ์ลง พยายามส่องเข้ามาทางฝั่งไทย และเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่าย มาบันทึกภาพ บางคนก็แสร้งเอาเสาแขวนถุงเลือดมาด้วย ทำทีคล้ายเป็นผู้ป่วย หวังหลอกคณะทูต
ในขณะที่ทางฝั่งไทยของเราเอง ก็มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง จากบ้านหนองจานเดินทางมา เพราะหวังที่จะมาพบกับคณะผู้สังเกตการณ์
1 ในชาวบ้านบอกว่า ที่ผ่านมาอึดอัดใจมาก อยากบอกทูตว่าขอให้ได้ที่ทำกินคืน หลังจากผ่านมา 50 ปี และอยากได้ผืนแผ่นดินไทยคืน และหลังจากกองทัพผลักดันกัมพูชาออกไป ก็หวังว่าอาจจะกลับมาทำกินได้ ซึ่งชาวบ้านหลายคนมีเอกสาร นส.3 และ สค.1
ขณะที่คุณป้าจิดาภา สิทธิพล อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน 48 ไร่ ได้นำเอกสาร สค.1 ที่ได้มาตั้งแต่ปี 2490 มาเป็นหลักฐาน โดยคุณป้าเล่าว่า ได้จ่ายภาษีที่ดินมาตลอด กระทั่งมีการตั้งค่ายอพยพ
และในที่สุด เมื่อป้ากลับมาทำกิน ก็ไม่สามารถเข้ามาได้ แต่กลับถูกชาวกัมพูชาไล่ยิง บางจุดมีการลอบวางระเบิด จนทำให้ชาวบ้านบางคนขาขาด
วันนี้ตนเองอยากให้รัฐบาล ช่วยให้ชาวนาอย่างพวกตนได้ที่ดินคืน เพราะไม่อยากเสียอธิปไตยของเราไป เพราะตนเองมีเอกสารสิทธิ์ และอยากบอกกับคณะผู้สังเกตการณ์ช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะไม่มีที่ทำกินแล้ว อยากได้ดินแดนเราคืน เรามีหลักเขตชัดเจน แต่กัมพูชากลับเข้ามาอยู่ในหลักเขตของเรา
จากนั้นทางคณะผู้สังเกตการณ์ได้มีการร่วมกันถ่ายภาพ และเดินทางกลับ
Advertisement