Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ศบ.ทก. ย้ำไทยตอบโต้เหมาะสม ส่งหนังสือแจงUNSCกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ศบ.ทก. ย้ำไทยตอบโต้เหมาะสม ส่งหนังสือแจงUNSCกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

25 ก.ค. 68
14:47 น.
แชร์

ศบ.ทก. แจง ไทยส่งหนังสือแจงUNSCหลักฐานชัดกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน พร้อมส่งทูตไทยนิวยอร์ก ร่วมประชุมหารือปมชายแดน เผย ปชช.บาดเจ็บ-เสียชีวิต เหตุปะทะ45ราย

วันที่ 25 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก. ว่า ศบ.ทก.ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งยิงมายังฝ่ายไทยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (24 ก.ค.) ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ ซึ่งการปะทะดังกล่าวเป็นเหตุที่ไม่คาดคิด ทำให้ฝ่ายเราไม่สามารถแจ้งเตือนไปยังประชาชนได้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังมีการปะทะอยู่ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้ จึงอยากแจ้งเตือนประชาชนทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ ให้อพยพออกจากพื้นที่การรบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บของพลเรือนฝ่ายไทย ณ วันที่ 25 ก.ค. เวลา 09:00 น. รวมทั้งหมด 45 ราย มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 11 ราย

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ อุบลราชธาณี ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ได้ทำการอพยพประชาชนไปแล้วกว่า 130,000 คน และทางจังหวัดได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงอพยพผู้ลี้ภัย ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้มากกว่า 300,000 คน รวมทั้งจัดชุดรักษาความปลอดภัย (ช.ร.บ.) เพื่อดูแลความปลอดภัยและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ได้อพยพผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ออกจากรัศมีของการโจมตีรวมทั้งหมด 11 แห่ง มี 4 แห่ง ปิดทำการไปโดยปริยาย เพราะมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้ป่วยใน รวมทั้งหมดบุคลากรทางการแพทย์ มีการอพยพออกจากพื้นที่แล้ว

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยรวมถึงผู้เสียชีวิต ทุพพลภาพ และบาดเจ็บ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำหนดแนวทางตามระเบียบของราชการในการช่วยเหลือประชาชน จัดสรรงบประมาณและกองทุนต่าง ๆ ที่สามารถจัดหาได้

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับมติของที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ มีการอนุมัติให้กองทัพ ดำเนินการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพดินแดนของไทย และให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยพิจารณาจากกลไกช่วยเหลือเพิ่มเติม ส่วนกระทรวงการคลัง ให้พิจารณามาตรการทางภาษีช่วยเหลือภาคเอกชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ให้ทำการประท้วงและประณามการกระทำของกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีการรายงานว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการพูดกับกัมพูชาด้วย

ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปะทะที่เริ่มต้นโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้รวมถึงพลเมืองบริสุทธิ์ โดยเฉพาะการเสียชีวิตของเด็กและคนชรา นอกจากจะละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศแล้ว ยังเป็นการละเมิดศีลธรรมและควรที่จะได้รับการประณามอย่างเต็มที่โดยประชาคมระหว่างประเทศ ขอย้ำว่าการตอบโต้ของฝ่ายไทยมีความชัดเจนเหมาะสมในการป้องกันตนเองตามข้อที่ 11 ของกฎบัตรสหประชาชาติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.68) กัมพูชาได้เปิดฉากยิงไทยรุนแรงต่อเนื่อง ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงทางการทหาร แต่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพลเรือนชาวไทย โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนและสถานที่สาธารณะที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาลอันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ระบุชัดเจนว่ารัฐบาลไทยประนามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการกระทำของกองทัพกัมพูชาและได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตแล้ว

นางมาระตี กล่าวว่า การกระทำของกัมพูชาเป็นละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตั้งแต่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดในวันที่ 16 และ 23 ก.ค.68 รัฐบาลไทยเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยุติการโจมตีเป้าหมาย ทั้งทหารและพลเรือน ยุติละเมิดอธิปไตยของไทยโดยทันที การกระทำของกัมพูชาเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 1 เกี่ยวกับการคุ้มครองโรงพยาบาลรัฐ ฉบับที่ 4 เกี่ยวกับการคุ้มครองหน่วยแพทย์ เป็นการกระทำขาดมนุษยธรรมต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้ ภายหลังกัมพูชาส่งหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ขอให้เรียกประชุมด่วนเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชา พร้อมกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายรุกรานอธิปไตยกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือถึง UNSC แล้ว เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งไทยมีหลักฐานว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน มีการใช้ความรุนแรงจนฝ่ายไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เป็นกรรุกรานอธิปไตยเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนต่อประเทศ โดยขอให้ประธาน UNSC เวียนหนังสือของฝ่ายไทยเพื่อให้สมาชิกทุกประเทศรับทราบด้วย

นางมาระตี กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้เวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะจัดประชุมแบบปิดเพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งการประชุมลักษณะนี้จัดขึ้นเป็นปกติเมื่อมีเหตุการณ์ปะทะระหว่างสองประเทศที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เป็นการประชุมเพื่อลงมติใด ๆ แต่เป็นการหารืออย่างเป็นทางการเชิญคู่กรณีและสมาชิก 15 ประเทศ ทั้งสมาชิกถาวรและไม่ถาวรเข้าให้ข้อมูลเพื่อเป็นที่รับทราบ ซึ่งฝ่ายไทยจะมีทูตประจำนิวยอร์ก เข้าร่วมประชุม

นางมาระตี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในวันนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ จะมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อรายใหญ่ของต่างประเทศ เพื่อเผยแพร่ข้อเท็จจริงและแนวทางการดำเนินการของไทยให้นานาประเทศได้รับทราบอย่างครอบคลุม โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกนะทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางกลับจากการหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ.2025 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในคืนนี้ ซึ่งจะมีการรายงานถึงผลการประชุมอีกครั้งหนึ่ง อาจจะมีแถลงการณ์เพิ่มเติม เพื่อเรียกร้องให้ยุติการปะทะ โดยเฉพาะเป้าหมายพลเรือน

นางมาระตี ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงวัฒนธรรมแห่งกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพไทยว่าได้กระทำการรุกรานสร้างความเสียหายให้ประสาทพระวิหาร แหล่งมรดกโลก ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองวัฒนธรรมภายใต้กรอบยูเนสโก ว่าการปะทะระหว่างกองกำลังไทยกับกัมพูชา เกิดขึ้นที่ภูมะเขือที่อยู่ห่างจากตัวปราสาทพระวิหาร 2 กิโลเมตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดไปไกลถึงปราสาทพระวิหาร ซึ่งฝ่ายไทยส่งหนังสือชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวแล้ว

Advertisement

แชร์
ศบ.ทก. ย้ำไทยตอบโต้เหมาะสม ส่งหนังสือแจงUNSCกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน