
(7 พ.ย. 2568) ร.ต.อ.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อดีต สส. บัญชีรายชื่อ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "ผมได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงานสำคัญของตำรวจบ่อยครั้ง ในคำเชิญจะมี Seating Plan หรือ Seating Protocol ผังที่นั่งแนบมาด้วย ระบุว่า ใครจะนั่งตรงไหนกับใคร ผมมียศแค่ร้อยตำรวจเอก แต่ใน Seating Protocol มักมีชื่อผมนั่งอยู่กับท่านผู้บังคับบัญชาในอดีตที่พวกเราตำรวจเคารพ เกือบทุกท่านมียศพลตำรวจเอก"
ทันทีที่รับคำเชิญ ผมจะโทรศัพท์กลับไปที่ Protocol Committee หรือ Invitation Committee ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าภาพในการเชิญและคัดเลือกผู้รับเชิญว่า เพื่อขอนั่งข้างหลัง หรือนั่งร่วมโต๊ะกับนายตำรวจชั้นยศระดับเดียวกับผม หน่วยงานเชิญและคัดเลือกผู้รับเชิญจะแจ้งว่า ลำดับนี้ได้รับการคัดกรองจากที่ประชุมแล้ว เปลี่ยนไม่ได้ ผมจึงปฏิเสธการไปร่วมงานเกือบทุกครั้ง
ผมอึดอัดเพราะ It’s an honor far beyond what a mere Police Captain like me deserves. นี่เป็นเกียรติที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกอย่างผมไม่ควรได้รับ
ผมเคยถามท่านผู้ใหญ่หลายคนถึงเรื่องนี้ ท่านบอกว่า หมูไม่เคยทำร้ายหน่วยงานตำรวจ ไม่เคยแสดงถ้อยคำ หรือมีการกระทำที่มีเจตนาให้ประชาชนเข้าใจผิด เสื่อมศรัทธา หรือเกลียดชังองค์กรตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาให้ร้ายต่อสาธารณะ ในวงประชุม เวทีปราศรัย หรือสื่อ
ไม่เคยใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม เช่น ตำรวจทั้งหมดโกง ซึ่งเป็นการเหมารวมยกเข่ง
ไม่เคยแพร่ข่าวเท็จ หรือแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
ไม่เคยแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์ใส่ร้ายตำรวจ
ไม่เคยร้องเรียนเท็จเพื่อให้ตำรวจเสียชื่อเสียง
ขณะเดียวกัน ผมไม่เคยเข้าข้างตำรวจผิด เมื่อพบข้าราชการตำรวจทำผิด ผมจะโทรคุยให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อลงโทษเคร่งครัด แต่ไม่ค่อยเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพราะผมเห็นว่าควรรักษาเกียรติ ศรัทธา และภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจ หากภาพลักษณ์ของตำรวจเสื่อม ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อตำรวจร่วงโรย ความมั่นคงของประเทศจะสั่นคลอน ประชาชนจะเกิดความรู้สึกไร้ความเชื่อมั่น เมื่อประชาชนรู้สึกไร้ที่พึ่ง
สมองส่วน security center หรือส่วนความรู้สึกมั่งคงปลอดภัยของประชาชนจะเกิดความเครียด ความหวาดระแวง สังคมจะเกิด collective insecurity หรือภาวะหวาดกลัวร่วม
เมื่อเจอตำรวจทำผิด หน่วยงานตำรวจและกระบวนการยุติธรรมอื่นทั้งหมดต้องลงโทษทันทีและเด็ดขาด ต้องกำจัดตำรวจไม่ดีออกจากองค์กรอย่างเร็วที่สุด แต่ต้องระวังเรื่องเสาแห่งความศรัทธาในรัฐและสถาบันหลักแห่งความยุติธรรมหัก ไม่ว่าจะตำรวจ อัยการ ศาล หรือทหาร เพราะเหล่านี้คือ 'เสาใจ' ของประเทศ
เมื่อเสาใจหัก ประชาชนจะรู้สึกว่ารัฐไม่สามารถคุ้มครองพวกตนได้ จะเกิดภาวะสูญญากาศแห่งความยุติธรรม เป็นการเปิดช่องให้กลุ่มผลประโยชน์หรือพวกอิทธิพลนอกระบบ รวมทั้งให้พวกหิวแสงที่ต้องการสปอตไลต์ เข้ามาทำงานแทนที่กระบวนการยุติธรรม
ตัวอันตรายที่สุดในสังคมของทุกประเทศในปัจจุบันคือ attention seekers หรือ fame-hungry individuals ที่คนไทยเราเรียกว่า 'ไอ้ตัวหิวแสง'
หิวแสงบางคนเป็นแค่พวกที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องการเป็นจุดสนใจ เพื่อให้ตนเองมีแสงและมีที่ยืนอยู่ในสังคม
หิวแสงบางคน ในอดีตคือคนเรียกรับส่วย ทำหน้าที่ซื้อขายขายตำแหน่งตำรวจเบอร์หนึ่งของประเทศ เป็นคนที่ทำให้วงการตำรวจตกต่ำดำดิ่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำรวจไทย
Advertisement