กองทัพไทย เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ จับโป๊ะทหารเขมรล้ำแดน

กองทัพไทย เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ จับโป๊ะทหารเขมรล้ำแดน เทียบชัดชายแดนช่องบก อดีต-ปัจจุบัน เผยไทยได้ทำหนังสือประท้วงตลอด แต่ไม่เป็นผล 

วันที่ 10 มิ.ย. 68 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยข้อมูลแผนที่ทางอากาศที่จัดทำขึ้น โดยกองบัญชาการกองทัพไทย สืบเนื่องจากกรณีปัญหาชายแดนไทย และกัมพูชา โดยมีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฎในภาพถ่ายทางอากาศ ตรงจุดปะทะช่องบก ระหว่างทหารไทย และกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการชี้ปัญหาไทย-เขมรคือการเมืองไม่ใช่พรมแดน ชาตินิยมเหมือนดาบ2คม

ไทยแถลงชายแดนเขมรตึงเครียดน้อยลงแต่ไม่ปกติ สองฝ่ายปรับวีซ่าเหลือ 7 วัน

รวบสาวอุบลฯปล่อยเฟคนิวส์ข้อพิพาทชายแดน อ้างไม่มีเจตนาหารายได้จากโพสต์

โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ในช่วงแรกที่มีการถ่ายไว้ จนถึงปี 2520 และปี 2527 มีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ ยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ข้อมูลของกองบัญชาการกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย 

ทั้งนี้กองบัญชาการกองทัพไทย ยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546 , 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่าช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น 

พร้อมกันนี้หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศ โดยปรากฎว่า จากภาพถ่ายมีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง เปรียบเทียบจากปี 2563 กับเดือน เม.ย. 2568 มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ และเพียงแค่ผ่านมา 1 เดือน จากเดือน เม.ย. มาถึงวันที่ 24 พ.ค.ม 2568 ก่อนเกิดการปะทะในวันที่ 28 พ.ค. 2568 พบการขุดคูเลตอย่างชัดเจน เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อในการปฏิบัติการทางทหาร 

นอกจากนี้ยังได้เผยแพร่ภาพจุดปะทะทางอากาศ โดยพบว่า มีการเข้าไปตัดต้นพญาสัตบรรณให้ขวางเส้นทางเดินลาดตระเวน โดยกิจกรรมนี้เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.ปี 2568 

และหากดูภาพถ่ายทางอากาศเนิน 574 เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2568 เป็นการเปรียบเทียบ ภาพที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวในการขุด แต่เมื่อผ่านไป 1 เดือน ตรวจพบการถากถางพื้นที่ ด้วยเครื่องจักรกลก่อสร้าง ใช้รถแบคโฮและเกลี่ยดิน สร้างแนวคูเลต ที่กำบังเข้าแนวยิงและเส้นทางส่งกำลังบำรุง 

และหากขยับมาอีกจุดในภาพถ่ายทางอากาศที่เนิน 641 ในปี 2563 และเดือนก.พ. 2568 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2568 พบฐานทหารของกัมพูชา มีการปรับปรุงคูเลตกำบังเข้าแนวยิงจากเดิม รวมถึงเส้นทางส่งกำลังบำรุงและถนนลูกรัง จัดทำเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 4-6 เมตร อย่างจริงจัง 

พร้อมกันหากมาดูที่เนิน 475 พบข้อสังเกตว่า มีการเก็บภาพถ่ายทางอากาศตั้งแต่ปี 2547 และ 2563 รวมถึงต้นปี 2568 ยังไม่มีการขยับใดๆ แต่วันที่ 24 พ.ค.2568 เห็นชัดเจนว่า มีการสร้างแนวคูเลตยาว และถากถางพื้นที่จากทหารฝั่งกัมพูชาทำเป็นคูติดต่อ 

ซึ่งแนวคูเลตในเชิงสัญลักษณ์ทางทหาร คือแนวที่สร้างขึ้นมาในกรณีจะใช้ทางยุทธวิธี และละเมิด MOU 2543 ซึ่งระบุว่า พื้นที่ที่ยังไม่สามารถปักปันเขตแดนให้ใช้งานร่วมกันในการลาดตระเวน และทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศได้ 

โดยตลอดระยะเวลาที่กัมพูชามีความเคลื่อนไหวต่างๆ ไทยได้ทำหนังสือประท้วงให้หยุด และให้กลับไปอยู่ในสถานการณ์เดิม แต่ไม่เป็นผล

คอนเทนต์แนะนำ

ก๊าซเรดอน ในบ้าน ที่ทำงาน มาจากไหน? สาเหตุมะเร็งปอด รองจาก บุหรี่

"เลิกกั๊กแล้วรักก่อนนะเตง..." รู้จักความสัมพันธ์แบบ "Breadcrumbing"

สงครามส่งด่วน ใครคือธุรกิจขนส่งไทย ที่จะอยู่รอดในสมรภูมินี้