"สุทิน" ย้ำจุดยืน 'เพื่อไทย' ไม่หนุนกัญชาเสรี ชี้เนื้อหากฎหมายหนุนการใช้สันทนาการ พร้อมโต้หากปล่อยไว้คนจะล้นคุกเพราะเสพกันเต็มเมือง
วันที่ 16 ก.ย. สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ย้ำว่า สาเหตุที่ลงมติถอนร่างกฎหมายกัญชาวาระ2 เพราะรับไม่ได้ ที่ในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่มีบทบัญญัติใดที่ห้ามการเสพกัญชา ไม่ห้ามเด็กเสพกัญชา แต่กลับส่งเสริมด้วยการให้ชาวบ้านนำไปปรุงอาหารได้ ทั้งที่อันตรายอย่างมาก
นอกจากนี้ การที่ให้ปลูกกัญชาในครอบครัวได้ จะรับประกันได้อย่างไรว่า เด็กจะไม่เสพ เพราะเด็กจะเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งกฎหมายห้ามแค่การเสพในที่สาธารณะ ไม่ได้ห้ามการเสพในบ้าน
ส่วนที่บอกว่า เป็นการส่งเสริมรายได้นั้น มองว่า การปลูกกัญชา 15 ต้นในครัวเรือน
ก็ไม่สามารถขายได้ เพราะสารไม่เข้มข้นพอ ขณะเดียวกัน ใบอนุญาตปลูกก็สูงถึง 50,000 บาท จึงแสดงให้เห็นว่าสนับสนุนรายใหญ่มากกว่าเกษตรกร ดังนั้น หากไม่สามารถควบคุมการใช้กัญชาได้อย่างถูกต้อง ก็ให้กลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เพราะยังสามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ได้ ซึ่งการนำไปใช้ทางการแพทย์เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ต้องปลดล็อกกัญชาเสรี
นายสุทิน กล่าวต่อว่า พรรคไม่เคยสนับสนุนการใช้กัญชาทางสันทนาการ ซึ่งรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทยควรเสนอกฎหมายควบคุมก่อนประกาศกัญชาเสรี เพราะเป็นห่วงว่า การประกาศในขณะที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม จะไม่ใช่กัญชาทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นกัญชาทางสันทนาการ เนื่องจากไม่มีข้อใดที่ห้ามเสพหรือพี้กัญชา แถมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็เชิญชวนให้ไปพี้กัญชาได้เลย
ตอนเสนอกฎหมาย รัฐบาลเสนอ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้ามาเพื่อควบคุมการใช้กัญชา ก็ยกมือรับหลักการให้ เพราะมีความหวังว่าในชั้นกรรมาธิการฯจะไปปรับปรุงในสิ่งที่สังคมเป็นห่วง แต่เมื่อถึงในชั้นกรรมาธิการ พรรคเพื่อไทยก็ส่งคนของพรรคไป 6 คนเป็นกรรมาธิการฯ แต่คนของพรรคไม่สามารถทัดทานได้ จึงพบว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชงที่เข้าสู่สภาวาระ 2-3 กลับส่งเสริมให้ใช้ในทางสันทนาการด้วย
ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงเห็นตรงกันว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ทำเกินหลักการ ด้วยการเพิ่มมาตราที่ทำให้เกิดการส่งเสริมให้ใช้ทางสันทนาการ ย้ำว่าไม่ได้มีเพียงแค่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐที่ไม่เห็นด้วย ยืนยันว่า ไม่ได้เตะถ่วงกฎหมาย แต่ต้องการให้เกิดความรอบคอบและรัดกุม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องฟังเสียงของประชาชน
ส่วนที่ระบุว่า หากให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะทำให้คนมีความผิดนั้น สุทิน ยืนยันว่า กฎหมายมีผลย้อนหลังไม่ได้ ไม่มีการจับกุมย้อนหลัง แต่หากนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมาบังคับใช้ คนก็จะล้นคุกแน่นอน เพราะคนจะเสพกัญชาเต็มบ้านเต็มเมือง ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเพราะรัฐบาลกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ยกเลิกไม่ให้กัญชาเป็นยาเสพติด
Advertisement