จากกรณีเหตุยิงกันภายในบ่อนเฮียตี้ ย่านพระราม 3 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 63 หลังมีรายงานว่า นายถาวร สีสด หรือ เสี่ยถาวร เป็นฝ่ายเปิดฉากยิงจนมีคนเสียชีวิต 3 ศพ ก่อนถูกยิงเสียชีวิตเป็นศพสุดท้าย และมีการเปิดเผยว่าคนยิงอาจจะเป็น บอย บ้านครัว
กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. 63 นายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือ บอย บ้านครัว อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เดินทางเข้ามามอบตัวที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่ใช้ในการก่อเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉคลิปเสียงปมถาวรฆ่าสารวัตรแม็กซ์ถูกโกง 15 ล้าน เพื่อนหวั่นมือยิงเป็นแพะ
- แฉ! คลิปลับบ่อนขนของหนี "สันธนะ" เผยนาทีฆ่า 4 ศพ - พ่อสารวัตรโต้ลูกติดพนัน
- แฉบ่อนเฮียตี้ 4 ศพสั่งอุดปากพยาน ภาพชัดขนของหนีก่อนตร.ลง ผงะโต๊ะพนันโผล่หลังตึก
- "เสรีพิศุทธ์" ชี้บ่อนกลางกรุง หากตำรวจไม่รู้เห็นไม่มีทางเปิดได้
วันที่ 8 ส.ค. 63 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บ่อนถนนพระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รักษาการแทน ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ คุมตัว นายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ่อนพระราม 3 โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆคุมเข้ม
นายพิพิธ เปิดเผยสั้น ๆ ก่อนเข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพว่า "นายถาวรคลุ้มคลั่ง บอกให้นายถาวรวางปืนลง แต่นายถาวรไม่ยอมวาง จึงตัดสินใจยิงเพื่อป้องกันตัวเอง" จากนั้น เจ้าหน้าที่คุมตัวนายบอยเข้าไปในบ่อนเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่เข้าไปทำข่าวภายในพื้นที่บ่อน
ภายหลังจากใช้เวลากว่า 10 นาที ในการทำแผนฯเสร็จ เจ้าหน้าที่คุมตัวนายบอยออกมาด้านนอกพร้อมชี้ไปยังประตูทางเข้าบ่อน นายบอย เปิดเผยเหตุการณ์ว่า ในช่องเกิดเหตุ นายถาวรเริ่มยิงก่อน ยิงผู้หญิงและสารวัตรแม็กซ์ ส่วนตนเข้ามาที่บ่อนเพื่อมาหาหลาน เอาขนมมาให้หลานเท่านั้น
จังหวะที่มีการยิงนายถาวร ตนทำไปเพื่อระงับเหตุและป้องกันตัวเอง เนื่องจากนายถาวรก่อเหตุยิงผู้หญิงในบ่อน ยิงสารวัตรแม็กซ์ จากนั้นเดินเข้าห้องน้ำ แล้วออกมาจากห้องน้ำพร้อมอาวุธปืนจ่อหัวตัวเอง แล้วเล็งมาที่ตน ตนจึงตัดสินใจยิงนายถาวร เพราะนายถาวรสติแตก และเชื่อว่าเล็งปืนมาเพื่อยิงตนแน่นอน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ตนพกติดตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว เป็นปืนถูกต้องตามกฎหมาย มีใบอนุญาต ยืนยันว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่ก่อเหตุ สามารถตรวจสอบได้
นายบอย กล่าวต่อว่า "ตนไม่ขอโทษอะไรครอบครัวของนายถาวร ในทางตรงกันข้าม นายถาวรต่างหากที่น่าจะคนขอโทษครอบครัวของผู้หญิง เพราะเป็นคนยิงเขา ยิงเขาทำไม"
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายบอย เดินไปยังรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีขาวแดง แผ่นป้ายทะเบียน บงพ 239 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ของนายบอยที่ใช้ในวันก่อเหตุ หลังก่อเหตุนายบอยนำอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. มาวางเก็บที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ก่อนขับหลบหนีไปทางถนนพระรามที่ 3
กรณีที่ บอย บ้านครัว ปฏิเสธข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น แล้วอ้างว่ายิงเพื่อป้องกันตัวและปกป้องคนอื่น ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม มองว่า เป็นการอ้างเพื่อไว้ต่อสู้ในชั้นศาล เพราะถ้าเป็นการป้องกันตัวและสมควรแก่เหตุจริง กฎหมายระบุชัดเจนว่าไม่เป็นความผิดทางอาญา ถ้าเป็นการยิงกันเพื่อทวงหนี้อย่างที่เป็นข่าวตอนแรก โทษจะหนักถึงขั้นประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ดังนั้นตำรวจก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เหตุการณ์ยิงกันในบ่อนใครยิงใครก่อน อีกทั้งนายถาวรพยายามจะยิงนาย บอย ก่อนจริงหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้กล้องวงจรปิดที่ยึดมาได้จะพิสูจน์ความจริงได้ทั้งหมด
ซึ่งนายบอย ผู้ต้องหาอ้างว่า เอาของไปให้หลานในบ่อน ภายหลังพูดเพิ่มเติมว่าเข้าไปเล่นการพนัน แต่ได้ยินเสียงปืน จึงวิ่งออกจากบ่อนเพื่อหยิบปืนที่รถจักรยานยนต์ แล้วกลับเข้าไปในบ่อน ซึ่งเป็นพิรุธ รวมถึงบ่อนเครื่องตรวจอาวุธทำไมจึงนำปืนเข้าไปได้ และถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจก่อเหตุเพื่อล้างหนี้หรือไม่
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ชุมชนบ้านครัว ถนนบรรทัดทอง แขวงเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ บ้านนายบอยพบว่าไม่มีคนอยู่ ถูกปิดประตูล็อกจากภายใน
นางเมย์ (นามสมมติ) ลูกพี่ลูกน้องของนายบอย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุตนไม่ได้เจอและไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเรื่องการหลบหนีของนายบอย กระทั่งนายบอยเข้ามอบตัวจึงทราบจากข่าวที่ปรากฎ นายบอยมักจะออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ไม่รู้ว่าทำงานเกี่ยวกับอะไร ส่วนข่าวที่ออกมาว่าทำงานในบ่อนย่านพระราม 3 นั้นตนก็ไม่ทราบ อาวุธปืนที่นายบอยระบุว่าพกติดตัวเป็นประจำนั้น ตนไม่เคยพบเห็น เนื่องจากหากพกอาวุธปืนจริง คงไม่ให้ใครเห็นง่าย ๆ ส่วนกรณีที่นายบอยไปก่อเหตุ ตนก็ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุอะไร หลังเกิดเหตุยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายบอย
ที่ผ่านมา นายบอยจะอยู่อาศัยที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ พ่อแม่ของนายบอยเสียชีวิตแล้ว นายบอยเคยมีครอบครัว แต่ปัจจุบันหย่าร้างไปแล้ว มีลูกสาวและลูกชายหลายคน แต่ละคนแต่งงานมีครอบครัวแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ทำให้นายบอยอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนที่บอกว่า วันเกิดเหตุเอาขนมไปให้หลานชายนั้น ตนไม่ทราบว่าเอาไปให้หลานคนไหน แต่โดยปกตินายบอยเป็นคนที่ญาติพี่น้อง สามารถพึ่งพาได้ หลังจากนี้ทางญาติก็จะปรึกษาหารือกันก่อนว่าจะมีสู้คดีช่วยนายบอยหรือไม่ แต่คงไม่ได้ไปเยี่ยม เนื่องจากรอปรึกษากับทางญาติก่อน
นางภา ปาละทักขา อายุ 51 ปี เพื่อนบ้านนายบอย เปิดเผยว่า ตนเจอและคุ้นเคยกับนายบอย เนื่องจากอยู่ใกล้กัน เดินผ่านมาทักทายกันประจำ เท่าที่ตนเคยรู้จักมานาน นายบอยเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี พูดจาไพเพราะ เป็นคนใจเย็น รักเพื่อนฝูง มีน้ำใจ ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร ใช้ชีวิตเรียบง่าย เจอเด็ก ๆ ลูกหลานในชุมชนจะทักทายเสมอ ภายหลังจากที่นายบอยเข้ามอบตัว ตนไม่ตกใจเพราะรู้จักนิสัยนายบอยว่าไม่ใช่นิสัยรุนแรง ถึงแม้นายบอยจะให้การรับสารภาพว่าเป็นคนยิงนายถาวร แต่ตนกลับไม่ปักใจเชื่อว่านายบอยคือคนก่อเหตุ และคิดว่านายบอยไม่ใช่มือปืนแน่นอน ส่วนอาวุธปืนที่นายบอยบอกว่าพกไว้เป็นประจำนั้น ตนไม่เคยเห็น
นอกจากนี้ ตนมองว่าที่นายบอยเข้ามอบตัวนั้น เป็นเพราะถูกกดดันให้รับความผิดหรือไม่ และนายบอยอาจกลายเป็นแพะในคดีนี้ ซึ่งถ้าหากนายบอยไม่ได้กระทำผิดแล้วกลายเป็นแพะ ตนรู้สึกสงสารและเห็นใจนายบอยมาก
นางแย้ม (นามสมมติ) ชาวบ้านในชุมชน เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่านายบอยถูกจับกุมตัวแล้ว ตั้งแต่หลังก่อเหตุ นายบอยก็เข้ามาหลบอาศัยอยู่ที่บ้านทุกวัน ไม่ได้หนีไปซ่อนตัวที่ไหน ซึ่งก่อนที่นายบอยจะเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วงค่ำวานนี้ นายบอยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า กลางชุมชนจากบริเวณหน้าบ้านตัวเอง จำนวน 1 นัดอย่างดัง แล้วจึงเข้ามอบตัว ซึ่งสาเหตุที่นายบอยยิงปืนขึ้นฟ้านั้น เนื่องจากรำคาญที่เมื่อวานนี้มีสื่อมวลชนและคนนอกเข้าออกภายในซอยบ้านหลายคน หลายรอบ
นอกจากนี้ นายบอยเป็นคนโมโหรุนแรง ในอดีตเมื่อมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร หรือไม่พอใจใคร มักจะใช้อาวุธปืนตบหัวคนในชุมชน จนสร้างความหวาดกลัวแก่คนในชุมชน อีกทั้งไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือสุงสิงด้วย ที่ผ่านมาตนทราบว่าเคยมีคนนอกเข้ามาซื้อที่ดินบริเวณใกล้บ้านนายบอย เพื่อที่จะปลูกบ้านไว้อาศัย แต่สุดท้ายไม่สามารถดำเนินการได้ จึงไม่ได้สร้างบ้าน เนื่องจากนายบอยรำคาญ ไม่อยากให้ใครมาอาศัยอยู่ใกล้บ้าน ระราน จนไม่สามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ใครเป็นคนก่อเหตุตัวจริงที่ยิงนายถาวร เจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่านายบอยอาจก่อเหตุร่วมกับผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ คิดว่าเป็นนายบอยที่ลงมือก่อเหตุคนเดียว, นายสันธนะ ประยูรรัตน์ คาดว่าคนยิงคือเจ้าหน้าที่
หลังจากที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจากเหตุยิงกันในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 คือ นายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือบอย บ้านครัว อายุ 61 ปี ผู้ก่อเหตุยิงนายถาวร สดสี เสียชีวิต และนายธนบูลย์ สารลึก หรือ ต้น อายุ 46 ปี ที่เคลื่อนย้านสิ่งของเพื่อทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณารับฝากขังตัวชั่วคราว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ศาลพิจารณาไม่คัดค้าน อนุญาตให้ฝากขังนายบอย ส่วนนายต้น ญาติได้แสดงความจำนงขอยื่นประกันตัว ศาลพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาท ก่อนปล่อยชั่วคราว
ที่งานศพของนายถาวร วัดบางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี นายสายันต์ (นามสมมติ) ญาติของนายถาวร เปิดใจว่า ส่วนของทางคดีได้ติดตามข่าวว่าวันนี้มีการนำตัวนายบอยมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ่อน พระราม 3 และชี้จุดที่ยิงนายถาวร ส่วนตัว ตนเองและครอบครัวยังไม่เชื่อว่ามือยิงนายถาวร มีจะเป็นนายบอย เพราะตอนนี้หลักฐานยังไม่ครบ วงจรปิดภายในบ่อนก็ยังไม่มีใครเห็น และคงไม่ได้ยิงคนเดียวแน่นอน เพราะที่ศพนายถาวรมีรอยกระสุนเกือบ 10 นัด
"ตอนนี้ครอบครัวโกรธมือยิงมาก ทำไมยิงหลายนัด หรือถ้าเป็นเพราะนายถาวรเป็นฝ่ายเริ่มก่อนจริง ก็ไม่น่ามายิงขนาดนี้ ถ้านายบอย บ้านครัวเป็นมือยิงนายถาวรก็ควรมาขอโทษ มาขอขมาศพก็ยังดี" นายถาวรถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นที่รักของญาติ ๆ ทุกคน รวมทั้งนางสงบ ผู้เป็นแม่ ตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียนายถาวรไป
สุดท้าย ตนหวังว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทางครอบครัวตนบ้าง อยากให้คลี่คลายคดีอย่างตรงไปตรงมา
