ภัยร้ายสาวกลางคืน! รวบ “มีนพระราม 3”  โมเดลลิ่งเก๊ทรงเอ คาเตียงนอน

9 พ.ค. 67

ภัยร้ายสาวกลางคืน! "มีนพระราม3" โมเดลลิ่งเก๊ทรงเอ ลวงย่ำยีเด็กเอ็นฯ ห้าวจัดส่งรูปปืนท้าทาย “สารวัตรแจ๊ะ” ก่อนถูกบุกจับคาเตียง

เมื่อวันที่ 9  พฤษภาคม  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ “สืบนครบาล” นํากําลังติดตามจับกุมตัว นายกิตติกร หรือ มีนพระราม 3 อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ กระทําความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม”

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.ธีรเดช หรือ “ผู้การจ๋อ” ว่า นายมีน พระราม 3 แฝงตัวอยู่ในกลุ่มไลน์ของเหล่าเด็กเอ็น จากนั้นจะปลอมตัวเป็นโมเดลลิ่งหาเหยื่อ โดยทักไปหาลักษณะจะจ้างงานอ้างว่ามี “ลูกค้ารวย” สนใจ ทําให้เหยื่อสาวหลงเชื่อเข้าใจว่าตัวเองโชคดีที่ จะได้เจอลูกค้ารายนี้ และเมื่อเหยื่อสาวหลงกลตกลงรับงานคนร้ายแล้วมักจะนัดหมายเหยื่อไปในในโรงแรมย่าน “พระราม3”

ก่อนจะเจอกัน คนร้ายจะให้เหยื่อสาวไปถอนเงินในบัญชีมาเป็นเงินสดให้หมด โดยใช้อุบายว่าได้เดิมพันกับเพื่อนไว้ ว่าเด็กเอ็นฯวันนี้พกเงินสดมาเท่าไหร่ หากใครทายถูกก็จะได้เงินจากการเดิมพัน หากชนะพนันจะนำเงินที่ชนะมาแบ่งให้กับเหยื่อสาว

เมื่อเหยื่อถอนเงินสดมาไว้เต็มกระเป๋าแล้ว เดินทางมาถึงจุดนัดพบ คนร้ายจะแปลงกายจากโมเดลลิ่งในแช็ตไลน์มาปลอมตัวเป็น “ลูกค้า” ทำทีโอ้อวดว่าเป็นเสี่ย และใช้เทคนิค ไม่จ่ายเงินก่อน ซึ่งบางรายถูกข่มขืน และยังถูกขโมยทรัพย์สินไปอีกด้วย ทําให้เหยื่อสาวบางรายถึงขั้นคิดสั้นก็มี

แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ มีสาวเด็กเอ็น ตกเป็นเหยื่อมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 คน แต่เกือบทั้งหมดไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะอับอายและถูกข่มขู่ว่าจะปล่อยคลิปลับ

กระทั่งล่าสุดมีเหยื่อสาว 2 คน ได้ขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด โดยประสาน พล.ต.ต.ธีรเดช จนกระทั่งสามารถจับกุม นายกิตติกร หรือ มีนพระราม3 ได้ในที่สุด

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า หลังรับเรื่องได้ส่งชุดสืบนครบาลของ “สารวัตรแจ๊ะ” ไล่ล่าติดตามตัว โดยระหว่างติดตามตัว นายมีน ได้ส่งข้อความมาว่า “เดี๋ยวไปมอบตัวเอง ไม่ต้องหา จ้งแจ๊ะไรก็หากูไม่เจอหรอก” พร้อมส่งภาพปืนลูกโม่ ท้าทายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จนกระทั่งถูกจับกุมได้ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธโดยให้การว่า “เคยเป็นระดับหัวจ่าย และเคยถูกดำเนินคดีในคดีจำหน่ายยาเสพติดฯ เมื่อปี พ.ศ. 2559 หลังจากพ้นโทษเมื่อปี พ.ศ. 2562 ได้หาเลี้ยงชีพด้วยการขับรถรับจ้าง และเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร ระหว่างนั้นมีโอกาสทำงานให้กับ นางเอ (นามสมมติ) โดยนางเอ เป็นโมเดลลิ่งรับจัดหาเด็กเอ็นฯ จึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานด้านโมเดลลิ่ง และทำงานร่วมกับนางเอ เป็นระยะเวลาหลายปี จนกระทั่งมีความรู้ความชำนาญในงานดังกล่าว

จึงได้ใช้อุบายโดยการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มไลน์เพื่อปลอมตัวเป็นโมเดลลิ่ง รับจัดหาเด็กเอ็นฯเพื่อไปดูแลลูกค้าในงานต่างๆ และอ้างตัวว่าตนเป็นสาวประเภทสอง ที่ทำงานในด้านนี้มานาน และทำทีพูดคุยว่าจะพาไปหาลูกค้าทำให้เด็กเอ็นฯ จนหลงเชื่อ ทำเช่นนี้มาประมาณ 8 คน แต่ไม่ได้มีการขโมยเงิน หรือการข่มขืนตามที่เป็นข่าว” หลังจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายกิตติกร หรือมีนพระราม 3 ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส