คอตก! คุมตัวฝรั่งหัวร้อน บีบคอโชเฟอร์ตุ๊กๆ ส่งฟ้องศาล หลังเผ่นหลบหนีไป จ.กระบี่ ขณะที่ผู้เสียหายให้ปากคำเพิ่มเติม
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 เวลา 04.00 น. นายอับดุลเลาะ แซซาเหะ ผู้เสียหาย ซึ่งขับรถโดยสาร (รถตุ๊ก ตุ๊ก)ได้รับ นทท.ชาวต่างชาติทราบชื่อภายหลัง คือ นายลุค อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม(Mr.Luke Alexander Graham) อายุ 31ปี สัญชาติอังกฤษ มาจากพื้นที่ ป่าตอง เพื่อมาส่งโรงแรมวรบุรี ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในราคา 400 บาท เมื่อมาส่งถึงหน้าโรงแรม ได้มีปากเสียงกันเรื่องค่าโดยสาร นายลุค อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เนื่องจาก นายลุค อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม อ้างว่าได้จ่ายค่าโดยสารให้กับนายนายอับดุลเลาะ แล้ว เป็นธนบัตรไทยจำนวน 1,000 บาท และต้องการให้นายนายอับดุลเลาะ ทอนเงินคืนให้ตน แต่นายนายอับดุลเลาะ ยืนยันว่าเป็นธนบัตรใบ 100 ทั้งสองได้ถกเถียงกัน และ นายลุค อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม ได้ใช้มือบีบคอแล้วตบเข้าที่หน้านายอับดุลเลาะ แล้วหลบหนีไป
จากนั้นผู้เสียหายไปตรวจร่างกายโรงพยาบาลป่าตอง ทางแพทย์ให้ความเห็นว่าได้รับบาดเจ็บที่แก้มซ้ายและตรวจไม่พบบาดแผลภายนอกแต่อย่างใด นายอับดุลเลาะ ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
ซึ่งหลังจากที่ทางพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลออกหมายจับ และได้เดินทางไปควบคุมตัวนายลุค อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม ได้ ในพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ ก่อนนำตัวกลับมาดำเนินคดี ที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต
ล่าสุดเช้านี้(1พ.ค.67)ที่ สภ.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ผู้เสียหาย พร้อมด้วยบิดา ได้เดินทางมายัง สภ.กะรน เพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม โดยทาง บังเฮ บิดาของผู้เสียหาย บอกว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวน นัดให้มาพบตอน 10 โมงเช้า ซึ่งทราบว่าคู่กรณีน่าจะอยู่ข้างใน
ส่วนบุตรชายซึ่งเป็นคนพูดไม่เก่ง เล่าให้ฟังว่า ตอนที่เกิดเหตุนั้น ประมาณตีสามกว่า ลูกชายโทรมาหา บอกฝรั่งจ่ายเงิน 100 บาท แต่บอกว่าจ่ายให้ 1 พันบาท เขาจะเอาเงินทอน แต่ลูกชายไม่ให้ ฝรั่งร้อนใจ รวมทั้งเมาด้วยจึงทำร้ายร่างกาย ลูกชายพูดภาษาอังกฤษ ไม่ได้ ล่าสุดทราบว่าจับตัวได้แล้ว ก็รู้สึกว่าดีใจ ขอบคุณตำรวจ
ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.กะรน พร้อมด้วยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันสอบปากคำ นายลุค อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม ผู้ต้องหา ซึ่งได้ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง และทางพนักงานสอบสวน ก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้ต้องหา ส่งศาลแขวง เพื่อพิจารณาความผิดต่อไป
