ลุงเข่าทรุด!ถูกโจรขโมยข้าวเปลือก 130 กระสอบ ซ้ำเหลือให้ดูต่างหน้า 10 กก.

26 มี.ค. 67

ลุงเข่าทรุด!ถูกโจรขโมยข้าวเปลือก 130 กระสอบ ซ้ำเหลือให้ดูต่างหน้า 10 กก. คาดว่าคนร้ายทำกันเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 6 คน

26 มี.ค 67 ที่บ้านเลขที่ 68 บ้านโคกไม้งาม หมู่ 7 ต.หนองมะเขือ อ.พล จ.ขอนแก่น นายเฉลียว อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านพาผู้สื่อข่าวดูภายในยุ้งฉางซึ่งอยู่ข้างบ้านติดกับที่นาโดยมีรั้วลวดหนามกั้นพื้นที่เอาไว้พร้อมทั้งบอกว่าข้าวเปลือกที่เก็บไว้ในยุ้งฉางนั้นประมาณ 130 กระสอบ แต่ถูกขโมยไปจนเกลี้ยงเหลือให้ดูต่างหน้าประมาณ 10 กิโลกรัม อยู่ภายในกระสอบและมีข้าวเปลือกตกอยู่เกลื่อนพื้นและปีนี้ราคาข้าวก็เป็นราคากก.ละ 14-15 บาท ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 11-12 บาท ต่อกิโลกรัม และนอกจากที่บ้านโคกไม้งามแล้วยังมีหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กันก็ถูกขโมยด้วย

5_19

นายเฉลียว เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 67 ที่ผ่าน มาช่วงเวลาประมาณ 01.00 - 02.00 น. ขณะนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงสุนัขเห่าแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรกระทั่งตื่นเช้ามามาดูที่ยุ้งฉางพบว่าข้าวเปลือก 130 กระสอบ ที่เก็บไว้หายไปเหลืออยู่ครึ่งกระสอบประมาณ 10 กิโลกรัม จึงเข้าแจ้งความเอาไว้ที่สภ.พล แต่ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ และเบาะแสล่าสุดวัยรุ่นในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟังบอกว่าเห็นรถเก๋งสีดำเข้ามาจอดแอบซุ่มอยู่บริเวณข้างทางโค้งห่างจากบ้านไปประมาณ 200 เมตร ไม่ถึง 10 นาที มีรถกระบะแคปติดคอก 2 คัน ขับมาอย่างไวแล้วขับลงทุ่งนามาจอดเทียบข้างยุ้งฉางซึ่งจะมีรั้วลวดหนามกั้นอยู่โดยมีคนลงมาจากรถ 3 คน คนแรกเข้าไปในยุ้งฉางอีกคนยืนอยู่ตรงบันไดยุ้งฉางข้างรั้วลวดหนาวและอีกคนอยู่ที่รถคอยรับส่งกระสอบข้าวเปลือกทั้งหมดใส่ท้ายกระบะขับออกจากหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็วซึ่งคาดว่าคนร้ายจะมีทำกันเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 6 คน

6_22

นายเฉลียวบอกอีกว่าข้าวเปลือก 130 กระสอบ ที่ถูกขโมยไปนั้นหากคิดเป็นมูลค่าประมาณ 50,000 บาท และปีนี้ข้าวก็เป็นราคากว่าปีที่แล้วตั้งใจจะนำไปขายหาเงินมาใช้หนี้ค่าปุ๋ยและมาใช้จ่ายในครอบครัวและไม่ต้องไปซื้อข้าวกินตอนนี้ข้าวก็ไม่เหลือหนี้ก็ไม่ได้ใช้ก็อยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายไวไวจะได้ไม่ไปก่อเหตุที่อื่นอีก

ด้าน พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล กล่าวว่า ในทางคดีนั้นเหตุขโมยข้าวเปลือกในช่วงนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 3 ราย ในรายที่ถูกลักข้าวเปลือก 130 กระสอบ นั้นภายหลังจากได้รับแจ้งความทางชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้ายและเก็บหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งในหมู่บ้านมีเพียงตัวเดียวแต่ก็ยังไม่พบรถต้องสงสัยเนื่องจากมุมกล้องส่องไปไม่เห็นและยังไม่สามารถยืนยันวันเกิดเหตุได้เนื่องจากผู้เสียหายเก็บข้าวเอาไว้ประมาณ 1 เดือน จึงมาเปิดดูเมื่อวันที่ 5 มี.ค. และกล้องวงจรปิดสามารถดูย้อนหลังได้เพียง 5 วัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่าอาจเกิดเหตุก่อนวันที่ 5 มี.ค. แต่ทั้งนี้มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่าพบเห็นรถยนต์ดังกล่าวเข้ามาในหมู่บ้านวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของทางตำรวจเพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส