เปิดตำนาน "บั้งไฟพญานาค" ลูกไฟผุดขึ้นจากลำน้ำโขง วันออกพรรษา

29 ต.ค. 66

เปิดตำนานการเกิด "บั้งไฟพญานาค" ตามพุทธประวัติ ลักษณะของบั้งไฟพญานาค บั้งไฟพญานาคสีอะไร พบที่อำเภอโพนพิสัยมากที่สุด

บั้งไฟพญานาค หรือก่อนปี พ.ศ. 2529 เรียกว่า บั้งไฟผี เป็นปรากฏการณ์ของการเกิดลูกไฟสีแดงอมชมพู พุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง จะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงจังหวัดหนองคาย ซึ่งจะเริ่มปรากฎเหนือผิวน้ำ ตั้งแต่ระดับ 50-150 เมตร เป็นเวลา 5-10 นาที แล้วดับหายวับไปในอากาศ และไม่มีลักษณะโค้งตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง ขนาดของลูกไฟมีขนาดตั้งแต่หัวแม่มือกระทั่งขนาดเท่าฟองไข่ไก่ โดยจะเริ่มปรากฎให้เห็นตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงประมาณ 23.00 น.

ตำนานการเกิดบั้งไฟพญานาค ตามพุทธประวัติกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ พระองค์ได้เสด็จเผยแพร่ศาสนาไปทั่วชมพูทวีปพญานาคีบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่ง จึงจำแลงกายเป็นบุรุษขอบวชเป็นสาวก

ค่ำคืนหนึ่งพญานาคีเผลอหลับใหลคืนร่างเดิม พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องจึงขอให้ลาสิกขา เนื่องจากเป็นเดรัจฉานจะบวชเป็นภิกษุมิได้ พญานาคียอมทำตามแต่ขอไว้ว่ากุลบุตรทั้งปวงที่จะบวช ให้เรียกขานว่า “นาค” เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของพญานาคก่อนเข้าโบสถ์

จากนั้นเป็นต้นมาจึงเรียกขานกุลบุตรทั้งหลายที่จะบวชว่า “พ่อนาค” ต่อมาเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์ เหล่าบรรดาพญานาคี นาคเทวี พร้อมทั้งเหล่าบริวารจัดทำเครื่องบูชาและพ่นบั้งไฟถวาย ซึ่งชาวบ้าน เรียกว่า “บั้งไฟพญานาค”

สำหรับจุดที่ปรากฏบั้งไฟพญานาคพบที่ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย มากที่สุด ในทุกๆ คืน วันออกพรรษา จะมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมาชมปรากฏการณ์ดังกล่าวเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม