ความในใจ “พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย” ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี สารวัตรศิว

18 ก.ย. 66

 

ความในใจ “พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย” ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี สารวัตรศิว ลั่น ความจริงมีหนึ่งเดียว ไม่คิดเพื่อนร่วมอาชีพ จะทรยศศักดิ์ศรีตำรวจ 

วันที่ 18 ก.ย. 66 พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 (ผบก.สส.ภ.4) หนึ่งในชุดสืบสวน คลี่คลายคดียิง “สารวัตรศิว” หรือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย” ระบุว่า 

“คดีกำนันนก เป็นคดีหนึ่งที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้เป็นหนึ่งในทีมสืบสวน เพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ความจริงเหมือนหลายๆ คดีที่ผ่านมา” 

“แต่สิ่งที่ได้พบ ทำให้สะเทือนใจ เสียใจ และหดหู่ใจที่ตำรวจดีๆ ต้องเสียชีวิต ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ตำรวจต้องตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งล้วนแต่เป็นพี่ เพื่อน น้อง หลายคนเคยทำงานร่วมกัน บางคนเป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกัน ต้องได้รับผลกระทบจากคดีนี้” 

พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 (ผบก.สส.ภ.4)

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกตั้งคำถามจากประชาชนในหลายๆ เรื่องจากเรื่องนี้ แต่เมื่อความจริงปรากฎพยานหลักฐานในหลายๆ เรื่องได้บอกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น ผมเชื่อว่าไม่มีตำรวจคนใดที่อยู่ในงานจะคาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เพราะเกิดขึ้นซึ่งหน้าอย่างรวดเร็ว ปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน” 

“แต่เพื่อนตำรวจกลุ่มหนึ่งที่เมื่อเกิดเหตุ กลับช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี ทำลายพยานหลักฐาน ไม่รักษาสถานที่เกิดเหตุ ไม่ช่วยเหลือตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ พฤติกรรมแบบนี้เกินกว่าที่จะรับได้ ทรยศต่ออาชีพ ศักดิ์ศรีตำรวจของคนเหล่านั้นหมดไปนับแต่วินาทีนั้น” 

“สำหรับผม เขาเหล่านั้นไม่ใช่ตำรวจอีกต่อไป ส่วนตำรวจที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนก็คงเป็นหน้าที่จะต้องชี้แจงว่ามีเหตุผลอย่างไร จึงได้ละเว้นหน้าที่เช่นนั้น ขอชื่นชมตำรวจที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และทำหน้าที่ที่ควรทำ ซึ่งจะเห็นว่ายังมีตำรวจที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อีกมาก” 

“ในการทำงานสืบสวนตลอดชีวิตราชการที่ผ่านมา ผมจะยึดถือเสมอว่า ต้องแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อยืนยันตัวผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษ แต่สิ่งที่ต้องทำคู่กันไปคือ ต้องค้นหาพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคนที่เกี่ยวข้องในคดีด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม การสืบสวนในคดีนี้แม้จะลำบากใจแค่ไหน อาจจะมีคนที่มองต่าง ตำหนิว่าไม่ช่วยเพื่อน ไม่รักตำรวจ ผมต้องขอโทษนะครับ ผมคิดว่าการสืบสวน สอบสวน อย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเท่านั้น จึงจะรักษาองค์กรและศักดิ์ศรีของตำรวจอีกกว่าสองแสนคน ให้ดำรงอยู่อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นที่เชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนต่อไปได้” 

#กำนันนก #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ทีมสืบสวนสอบสวน”

 

ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก พันตำรวจเอก ภาคภูมิ พิศมัย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส