"หนิง ปณิตา" ลั่นคำขอโทษไม่เพียงพอ ทั้งฝ่ายชาย-หญิง ควรสำนึกในความผิด ไม่พร้อมตอบเรื่องหย่า

หนิง ปณิตา ยิ่งกว่ามั่นใจในพยานหลักฐาน ขอเวลาอีกนิดจะตอบเรื่องหย่า ลั่นคำขอโทษไม่เพียงพอ ทั้งฝ่ายชาย-หญิง ควรสำนึกในความผิด เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องสูญเสียครอบครัว

วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ผู้จัดและนักแสดงชื่อดัง หนิง ปณิตา ได้เดินทางมาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตามนัดหมายศาลครั้งที่ 2 เป็นการนัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี คดีละเมิดเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่สาม แต่คู่กรณีไม่มาตามนัด ต้องเลื่อนนัดไปวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เรื่องหย่าขอเวลาอีกนิดแล้วจะตอบ ส่วนเรื่อง จิน จรินทร์ หาทนายให้อีกฝ่ายให้ไปถามเอง แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดมากที่สุด

ด้าน หนิง ปณิตา ก็ได้เผยว่า จริงๆ ณ วันนี้คือ พอเวลามันคนเราจะมีธงอยู่แล้วเนาะว่า เรามีธงในการที่จะฟ้องร้องค่าเสียหายทั้งหมดเท่าไหร่ แต่พอเวลาที่ที่เวลามันผ่านไป เราก็จะรู้สึกว่าแบบ จบๆมันไปไหมเหนื่อย แต่ทุกครั้งที่มันจะจบๆไปไหม มันก็จะมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เรารู้สึกว่ากลับมาคงเดิมกันแล้วกัน ก็แบบนั้น มันเป็นอย่างนี้มาไม่รู้กี่รอบละ พอจะจบจะจบให้ก็กลับมาธงเดิมแล้วกัน

แสดงว่ามันจะมีประเด็นใหม่? คือในประเด็นว่ามันเรื่องราวอะไรหนิงขออนุญาตว่าหนิงไม่ไปลงรายละเอียด ก็เอาเป็นว่าหนิ่งก็ยังเป็นธงเดิมของหนิงอยู่นะคะ อย่างวันนี้ทางเขาไม่มา เขาก็คงมอบหมายบางอย่าง ให้ทนายเขามาเจรจาซึ่งสิ่งที่เจรจากันมา ถ้าทุกคนรู้ก็คงรู้สึกว่า(หื้อ) หนิงเองนั่งอยู่ก็ (หื้อ) และหนิงก็กลับไปที่ธงเดิมของหนิง

หนิงก็สงสารทนายเขาเหมือนกันเพราะทนายเขาก็เป็นผู้หญิง เขาก็เข้าใจความรู้สึกของเราทุกอย่างแต่อยู่ในหมวดของทนาย เขาก็พยายามที่จะเจรจาให้มาพูดคุย ซึ่งหนิงก็บอกว่าหนิงรอได้ถึงเย็นนะ โดยในรายละเอียดหนิงขออนุญาตไม่ไปลงในรายละเอียด แต่ในส่วนของหนิง หนิงก็คงยังอยู่ในธงเดิมซึ่งมันก็เป็นธงที่สมเหตุสมผล เขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนิงต้องสูญเสียครอบครัวค่ะ

คือคนเราทุกคนมันผิดพลาดกันได้ทุกคนหนิงเองก็ไม่ใช่คนไม่เคยผิด ทุกคนผิดพลาดกันได้หมดเมื่อผิดพลาดแล้ว แล้วถ้าเราอยากจะแก้ไข เราต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้ด้วยความจริงใจและยอมรับผิดจริงๆ ไม่ใช่พยายามที่จะโทษว่าเป็นเพราะอย่างนู้นเป็นเพราะอย่างนี้ เป็นเพราะแบบนั้น เพราะว่าถ้ามันมีแอตติจูดแบบนี้แล้ว เรื่องราวมันก็ไม่มีวันจบและมันยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเจ็บปวด หนิงขอไม่ลงรายละเอียดในเงื่อนไงแล้วกันนะคะ

วันที่ 4 ตุลาคม 2566 หนิงสืบพยานในตอนเช้า ทางคู่กรณีหนิงสืบพยานในตอนบ่ายค่ะ (เรามั่นใจในหลักฐานพยานทุกอย่าง?) ใช้คำว่ายิ่งกว่ามั่นใจดีกว่าค่ะ ถ้าหนิงตัดสินใจว่าหนิงจะฟ้องแล้ว หนิงก็ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่หนิงมีอยู่ในมือมันเป็นสิ่งที่มันเป็นประโยชน์กับหนิง แล้วที่สำคัญคือกฎหมายมันก็ชัดๆอยู่แล้วแล้วทนายหนิงก็เก่งมากด้วย

2 ครั้งที่เขาไม่มาเป็นเพราะเขาไม่กล้าเจอหน้าเรา?
อันนี้หนิงไม่ทราบได้ หนิงไม่สามารถที่จะไปคิดแทนเขาได้ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวหนิงต่อให้หนิงเป็นคนผิดหนิงก็จะเดินไปแบบหนิงผิดค่ะหนิงขอโทษค่ะ หนิงก็เป็นแบบนั้นทุกครั้ง

อันนี้ต้องขอนุญาตแก้ข่าวแทนพี่ญ่าด้วยนะ มันก็มีกระแสบางกระแส ไปโจมตีพี่ญ่าว่ามาเป็นคนกลางทำไม ทั้งที่พี่ธัญญ่าก็อยู่ในเวเดียวกับหนิง ทำไมถึงไม่เข้าข้างหนิง ซึ่งหนิงจะบอกว่าพี่ญ่า เป็นกำลังใจและซัพพอร์ตให้หนิงเสมอๆตลอด พี่ญ่าแค่ต้องการนำสิ่งที่เขาต้องการขอร้องมาบอก ทั้งหมดทั้งมวลมันจะเป็นยังไงมันอยู่แค่การตัดสินใจของหนิง และพี่ญ่าก็จะพูดกับหนิงว่าพี่แค่บอกสุดท้ายเราก็ต้องดูกันไปทั้งพี่ก็ต้องดู หนิงเองก็ต้องดูว่าเจตนาเป็นยังไง พอเอาจริงๆถ้าเป็นตัวพี่พี่ก็ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เพราะพี่ก็โดนมากับตัว แต่พอตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ในเวที่เป็นเด็ก แล้วเราจะฟาดฟันเอาชนะอย่างเดียว เราก็โตขึ้นแล้ว

คือถ้าคนที่ทำผิดแล้วพร้อมที่จะรับผิดอย่างจริงใจแล้วพยายามที่จะแก้ไขถ้าเราจะไม่เปิดโอกาสให้เลยเราก็จะดูเป็นคนที่อยากจะเอาแต่ชนะอย่างเดียว วันนี้เราเป็นแม่ของลูก จะสอนลูกให้ได้ดีเราก็ต้องพยายามแก้ไขตัวเรา ให้ดีในหลายๆเรื่อง ซึ่งเราก็ไม่ได้เป็นคนดีแต่มันคือเราพยายามจะเรียนรู้และทำให้มันดีที่สุดเท่าที่จะดีได้

การที่เขาอยากขอโทษมันเพียงพอไหม?
คืออย่าวที่หนิงบอกว่าคำขอโทษเพียงพอไหมมันไม่พอหรอกค่ะ แต่ถ้ามันเป็นการขอโทษและพยายามทุกอย่างอย่างจริงใจที่สัมผัสได้ว่ามันไม่ แอบแฝงอะไรเลย ยกตัวอย่างง่ายๆจากคดีเก่า วันนี้เขาคือน้องที่หนิงรักคนหนึ่ง อันนั้นอ่ะเพียงพอ แต่กว่ามันจะไปถึงจุดนั้นได้ก่อนอื่นเลย ทั้งคู่เลย ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง คุณต้องสำนึกในความผิดของคุณก่อน

ถ้าตราบใดที่คุณไม่สำนึกในความผิดของคุณ สิ่งเหล่านี้มันก็จะไม่เกิดขึ้นมันก็จะยืดเยื้อกันต่อไปแบบนี้ เพราะว่าหนิงเองหนิงจะไม่คุยแล้ว พอคุยแล้วทุกอย่างมันทำร้ายความรู้สึกหนิง ถ้าทุกอย่างมันทำร้ายความรู้สึกหนิง หนิงก็ให้กฎหมายเป็นตัวจัดการ หนิงก็จะได้ถอยออกมาอีกสเต็ปหนึ่งไปสร้างพลังงานดีๆที่จะต้องทำอะไรดีๆดีกว่า (ทนาย) วันที่ 4 ตุลาคม ถ้าเขาไม่มีคือเขาแพ้คดีเลย

มีข่าวว่าทางพี่จินเป็นคนหาทนายให้ทางนั้นจริงหรือเปล่า?
จริงๆคำถามนี้ควรไปถามพี่จินเนาะ เพราะถ้าเป็นคำถามมาจากหนิง เราแล้วหนิงเป็นคนตอบมันก็จะบอกว่าแล้วเธอมีหลักฐานอะไร แล้วหนิงบอกว่าหนิงมีพยายบุคคล เขาก็จะบอกว่าบุลคลนั้นโกหก เอาเป็นว่าไปถามคุณจินแล้วกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนิงเจ็บปวดมากที่สุด

ส่วนเรื่องหย่าหนิงขอเวลานิดหนึ่งแล้วหนิงจะตอบ แต่เชื่อว่าคำตอบนี้ก็เป็นคำตอบอยู่ในปริยาย โดยรายละเอียดหนิงว่าหนิงขอเวลานิดหนึ่งนะขอกลับไปคุยกับลูกก่อนโดยรายละเอียด