“เศรษฐา” โชว์นามบัตร ยังอยู่กับ “เพื่อไทย”
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางเข้าร่วมสัมมนากับว่าที่ ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ณ ที่ทำการพรรค
โดยทันทีที่นายเศรษฐามาถึง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นมีใครเข้ามาพูดคุยทาบทามตำแหน่งทางการเมืองแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่มีครับ แล้วก็ตามมารยาทไม่ได้ด้วย ผมทวีตไปแล้ว พูดไปแล้ว ต้องให้เกียรติทางคนที่ได้คะแนนอันดับ 1 เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล นี่ผมทวีตไปชัดเจน ไม่มีการทาบทาม ไม่มีการคุย ไม่คุยเลยครับ”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แกนนำพรรคก้าวไกลยังไม่เข้ามาพูดคุยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน ไม่เคยคุยด้วยเลย ผมไม่มีเบอร์ใครในพรรคก้าวไกลสักคนเดียว ไม่มีใครจะพรรคก้าวไกลติดต่อมา และไม่ได้หวังว่าจะติดต่อมาด้วย เพราะเป็นหน้าที่เขาที่ต้องจัดการตั้งรัฐบาลให้สง่างาม”
เมื่อถามว่า 8 พรรค จะสามารถจัดจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนได้ฟังข่าว ก็ยังอยู่ในขั้นตอนที่จัดตั้งกันอยู่ ก็เป็นกำลังใจให้ หวังว่าทุกคนช่วยกันซัพพอร์ต เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะดำรงตำแหน่งนายกฯเพียงตำแหน่งเดียว แล้วเวลานี้พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีความคิดเปลี่ยนไปทำงานในตำแหน่งอื่นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้มีความต้องการ วันนี้มาทำงานที่พรรคก็เอากระเป๋าทำงานมา และพรรคก็ทำนามบัตรไว้ให้ด้วย
เมื่อถามว่า อนาคตทางการเมืองในการเลือกตั้งของตัวเองอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของพรรค ต้องให้เกียรติพรรคด้วย ตนมาที่นี่ มีห้องทำงานที่นี่ มีนามบัตรแล้ว ยินดีรับมอบหมายทุกอย่างที่พรรคมอบให้
“มีนามบัตรพรรคเวลาไปไหนก็มีหัวกระดาษ 30 ปีที่ผ่านมา มีนามบัตรตลอด วันนี้มีนามบัตรชัดเจน ผมมาทำงานที่พรรค มีห้องทำงานที่พรรค มาดูเรื่องรีแบรนด์ดิ้ง มาดูเรื่องปัญหาพี่น้องประชาชนตามที่ให้สัญญาไว้ว่าจะไม่ไปไหนก็ยังอยู่ที่นี่ต่อไป วันนี้มีการประชุมกับผู้สมัคร ส.ส. 500 คน กับพี่ ๆ ในพรรค ก็มาพูดคุยกันว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ในแง่ของการรีแบรนด์พรรค และมาให้ขวัญให้กำลังใจ ที่ทำงานหนักช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา”
ภายหลังให้สัมภาษณ์เสร็จแล้ว นายเศรษฐาได้ยกนามบัตรชูขึ้นมาให้ดู พร้อมแจกนามบัตรของตัวเองให้กับสื่อมวลชนด้วย